ศาลปกครองนครศรีธรรมราช พิพากษา 3 หน่วยงาน ‘เทศบาลเกาะสมุย - นายกฯเกาะสมุย-ผู้ว่าฯสุราษฎร์ฯ’ ร่วมกันกำจัดขยะ บำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นจากกองขยะภายใน 180 วันนับจากวันที่คดีสิ้นสุดลง พร้อมให้รายงานต่อศาลทุกๆ 30 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองนครศรีธรรมราชอ่านคพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ส.1/2564 หมายเลขแดงที่ส.1/2566
@เหตุจากน้ำขยะไหลลงน้ำ กลิ่นเหม็น
ผู้ฟ้องคดีทั้งสาม ได้แก่ ว่าที่ร.ต.สืบศักดิ์ พูลสวัสดิ์ (1), นางสาวชนิสสา สามสุวรรณ (2) และนางสาวสุนิธิ วิริยานนท์ (3)ฟ้องว่า เทศบาลนครเกาะสมุย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) บริหารจัดการกำจัดขยะโดยการนำขยะขุดหลุมฝังกลบไว้ใต้ดิน และบางส่วนได้นำมากองโดยรอบบริเวณบ่อขยะ ก่อให้เกิดมลพิษและสร้างปัญหาให้สภาพแวดล้อม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ เนื่องจากมีน้ำเสียที่เกิดจากกองขยะที่อยู่บนที่สูงไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ พบปัญหาดินปนเปื้อนสารโลหะหนัก เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม และเกิดมลพิษทางอากาศ รวมทั้งส่งกลิ่นเหม็น ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ทำการเกษตรบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เทศบาลนครเกาะสมุย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยและบำบัดน้ำเสียที่คงค้างให้หมดภายใน 120 วัน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ) ซึ่งกำกับดูแลให้เทศบาลนครเกาะสมุย และนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ปฏิบัติหน้าที่ในการกำจัดขยะมูลฝอยและบำบัดเสียจากการฝังกลบขยะให้เป็นไปตามกฎหมาย
@แผ่นยางคลุมขยะชำรุด-ขนไปกำจัดด้านนอก ทำรั่วซึมสร้างผลกระทบ
ในการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลโดยการตรวจสถานที่พิพาท และความเห็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้รับฟังได้ว่า บ่อกำจัดขยะของเทศบาลนครเกาะสมุย มีทั้งขยะเก่าซึ่งตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก และขยะใหม่อยู่ในที่เดียวกัน โดยขยะเก่าตกค้างทางด้านทิศใต้ มีแผ่นยางปกคลุม แต่แผ่นยางอยู่ในสภาพชำรุด ทำให้ไม่สามารถปกคลุมขยะได้ทั้งหมด และบางส่วนก็ไม่มีการปกคลุมด้วยแผ่นยาง ส่วนขยะทางด้านทิศตะวันตกมีการปกคลุมด้วยแผ่นยาง และพบว่ามีกลิ่นเหม็นบริเวณบ่อขยะ และมีน้ำขยะมีสีดำและมีกลิ่นรั่วไหลลงสู่ที่ดินประชาชนข้างเคียง
โดยรองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ยอมรับว่า มีน้ำขยะรั่วไหลออกจากบ่อกำจัดขยะบ่อเก่า บ่อที่ 1 และ 2 จริง สาเหตุมาจากการชำรุดของแผ่นพลาสติกที่รองขยะไว้ ซึ่งมีความลึก 7 เมตร และปัจจุบันได้เปิดผ้ายางคลุมขยะไว้ เพื่อดำเนินการขนขยะออกไปกำจัดข้างนอก ซึ่งขยะอาจจะโดนน้ำฝนบ้าง ทำให้น้ำซึมลงไปใต้ดินและรั่วไหลซึมออกมาลงสู่ที่ดินของประชาชนจริง และมีขยะติดเชื้อที่บ่อขยะจากสถานบริการสาธารณสุขและได้แจ้งให้สถานบริการสาธารณสุขดังกล่าวแก้ไขด้วยแล้ว
@ 3 จำเลยยังไม่แก้ไขปัญหา
ศาลรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ปัญหาและผลกระทบจากขยะจำนวนมากที่ฝังกลบและตกค้าง ณ สถานที่ก่อสร้างเตาเผาขยะในบริเวณสถานที่กำจัดขยะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (เทศบาลครเกาะสมุย) ก็ยังคงมีอยู่ และยังไม่ได้รับการแก้ไขให้หมดสิ้นไป เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสาม รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการบริหารจัดการขยะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในฐานะราชการส่วนท้องถิ่น และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (นายกเทศมนตรีเกาะสมุย) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ เทศบัญญัติ และนโยบายของรัฐบาล จึงยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการเก็บ ขน และกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจัดให้มีระบบจัดการและกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล รวมทั้งมูลฝอยติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรและบำรุงรักษาต่อสิ่งแวดล้อม ตามความเหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพและคุณสมบัติของมูลฝอยนั้น หรือสอดคล้องกับสภาพภูมิสังคม และควบคุมดูแลรวมทั้งตรวจสอบระบบกำจัดมูลฝอยติดเชื้อของผู้ประกอบกิจการสถานบริการการสาธารณสุข และผู้ประกอบกิจการห้องปฏิบัติการเชื้ออันตราย ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมาย ที่กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือมาตรฐานไว้เป็นการเฉพาะ
เมื่อรับฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (เทศบาลนครเกาะสมุย) โดยผู้ถูกฟ้องคดี 2 (นายกเทศมนตรีเกาะสมุย)มิได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวให้บรรลุผล จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ตามพระราชบัญญัติเทศบาล 2496 มาตรา 88 เตรส มาตรา 50 (3) ประกอบกับมาตรา 53 (1) และมาตรา 56 (1) ประกอบกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2542 มาตรา 16 (18) และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย 2560 ข้อ 4, 6, 11, 12 วรรคหนึ่ง ข้อ 15, 16 และ 17 ประกอบกับกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ 2545 ข้อ 1, 2 (1), 5, 6, 7, 24, 25, 26, 27และข้อ 28 และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข 2535 มาตรา 18
ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี) เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงบ่อกำจัดขยะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เรื่องปัญหาและผลกระทบจากการดำเนินการกำจัดขยะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 แล้ว
แม้จะรับฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้กำกับดูแลการปฏิบัติการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นลำดับแล้วก็ตาม แต่เมื่อปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากบ่อกำจัดขยะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังกล่าวยังคงมีอยู่ และการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
ดังนั้น จึงถือไม่ได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 กำกับดูแลให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่บรรลุผลแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จึงยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายและบรรลุผลและเพื่อมิให้เกิดความล่าช้าเกินสมควรต่อไป
เมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (เทศบาลนครเกาะสมุย) ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (นายกเทศมนตรีเกาะสมุย) เป็นผู้ควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร เป็นผลให้น้ำเสียจากกองขยะไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะและที่ดินของประชาชน เกิดกลิ่นเหม็นจากบ่อขยะ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามและประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณบ่อขยะดังกล่าวได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้น้ำจากแหล่งน้ำและใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์ในการดำรงชีพได้อย่างปกติสุข
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสาม ซึ่งเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสาม และเมื่อคำนึงถึงความร้ายแรงของผลที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อม และระยะเวลาตามปกติในการปฏิบัติราชการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ จึงสมควรกำหนดระยะเวลาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามปฏิบัติหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน
@สั่งกำจัดขยะ ขจัดกลิ่น บำบัดน้ำเสียใน 180 วันนับแต่คดีถึงที่สุด
พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (เทศบาลนครเกาะสมุย) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (นายกเทศมนตรีเกาะสมุย) ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ผู้ว่าฯจ.สุราษฎร์ธานี) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการเก็บ ขน และกำจัดมูลฝอย รวมทั้งมูลฝอยติดเชื้อ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือมาตรฐานที่กฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้และให้ขจัดกลิ่นเหม็นจากกองขยะ และบำบัดแหล่งน้ำสาธารณะบริเวณที่พิพาทให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รายงานผลการดำเนินการให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3
และศาลทราบทุก 30 วัน จนกว่าปัญหามลพิษดังกล่าวจะหมดสิ้นไป แต่ไม่เกิน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา ตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง (8) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542ว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม ควรคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อน หรือความเสียหาย และมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจัดลำดับความสำคัญเพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดตามคำพิพากษาด้วย
ที่มาภาพ: ไทยพีบีเอส