ผบ.ตร. กำชับการปฏิงานของเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กวดขันจับซิม-บัญชีม้า-เร่งช่วยเหลือผู้เสียหาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ออกบันทึกข้อความ เรื่อง เรื่อง กำชับการดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ถึง ผบ.ช.น.ภาค 1-9 ก. และ สอท.
ระบุว่า ด้วยคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียังคงมีสถิติการเกิดในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2566 เป็นต้นมา
ผบ.ตร. จึงกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เกิดผลสัมฤทธิ์ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล โดยมีรายละเอียดข้อสั่งการ ดังนี้
1. พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีหลักในการปฏิบัติ คือ
1.1 ผู้เสียหายแจ้งไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีด้วยตนเองได้ทันที โดยธนาคารจะระงับการทํา ธุรกรรมบัญชีคนร้ายได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง
1.2 ผู้เสียหายต้องไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนปากคํา
1.3 เมื่อพนักงานสอบสวนรับคําร้องทุกข์แล้ว ให้พิจารณาดําเนินการกับบัญชีคนร้ายและ ยืนยันกับธนาคาร โดยธนาคารจะระงับการทําธุรกรรมบัญชีคนร้ายเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 7 วัน
2. เมื่อผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้พนักงานสอบสวนสอบถามรายละเอียดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สอบสวนปากคําผู้เสียหาย จากนั้นบันทึก ข้อมูลลงในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ (www.thaipoliceonline.com) เพื่อออกเลขคําแจ้งความออนไลน์ (Case ID) รายละเอียดตามข้อ 6 และข้อ 3 ของคําสั่ง ตร.ที่ 182/2560 ลง 17 มี.ค.66
3. พนักงานสอบสวนต้องเร่งรัดดําเนินการ เพื่อขอระงับการทําธุรกรรมบัญชีเงินฝากหรือบัญชี เงินฝากอิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจอายัดบัญชีดังกล่าวไปในคราวเดียวกันก็ได้ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดําเนินการ ผ่านระบบประสานงานธนาคาร (banking.ccib.go.th) เป็นช่องทางหลัก
4. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย ตรวจสอบและเร่งรัดการสมัครใช้งานระบบประสานงานธนาคาร (banking.ccib.go.th) ของพนักงานสอบสวนทุกนายในสังกัด ทั้งนี้เพื่อให้การดําเนินการระงับการทําธุรกรรม การอายัดบัญชีคนร้าย หรือการขอข้อมูลประกอบการสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เกิดประสิทธิภาพ และอํานวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
5. หากการสืบสวนสอบสวนในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปรากฏชัดเจนว่าบัญชีม้า (บัญชีคนร้าย) ซิมม้า ถูกใช้ในการกระทําความผิดจริง ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับโดยเร็ว
6. ให้ทุกหน่วยกวดขันจับกุม ผู้กระทําความผิดใด ๆ เกี่ยวกับบัญชีม้า ซิมม้า ตามมาตรา 9,10 และ 11 ของ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อรอรับการตรวจประเมินจาก ศปอส.ตร. ต่อไป