กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ ตรวจสอบกรณีใช้รถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยึดแนวปฏิบัติ ป.ป.ช. ห้าม ขรก.ที่มิได้ดํารงตําแหน่งที่มีรถประจําตําแหน่ง จะนํา‘รถยนต์ส่วนกลาง’ไปใช้ ‘เสมือนเป็นรถประจําตําแหน่ง’มิได้ ฝ่าฝืนผิดวินัยร้ายแรง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ขอให้แจ้งสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ให้กลุ่มงานการเงิน บัญชี และการตรวจสอบ ดําเนินการตรวจสอบการใช้รถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามแผนการตรวจสอบประจําปี และกําชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำนักข่าวอิศรายงานว่า หนังสือสั่งการดังกล่าวเป็นผลมาจากที่สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีหนังสือขอทราบผลการดําเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เกี่ยวกับการนํารถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจําตําแหน่งว่า ข้าราชการผู้ใดที่มิได้ดํารงตําแหน่งที่มีรถประจําตําแหน่งจะนํารถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจําตําแหน่งมิได้ ข้าราชการผู้ใดกระทําการดังกล่าว ให้ถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง
รายละเอียดของหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่อง การตรวจสอบการใช้รถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด มีดังนี้
ตามที่ กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติงานตรวจสอบการคลัง การเงิน การบัญชี และการพัสดุองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด เพื่อให้การปฏิบัติงานตรวจสอบเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 104 โดยได้กําหนดให้มีการตรวจสอบการใช้และรักษารถยนต์ไว้ในกระดาษทําการ (แบบ ตส.2) นั้น
เนื่องจากสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีหนังสือขอทราบผลการดําเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เกี่ยวกับการนํารถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจําตําแหน่งว่าข้าราชการผู้ใดที่มิได้ดํารงตําแหน่งที่มีรถประจําตําแหน่ง จะนํารถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจําตําแหน่งมิได้ ข้าราชการผู้ใดกระทําการดังกล่าว ให้ถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง และกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งข้อเท็จจริงให้สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบ โดยกําหนดแผนดําเนินการในระยะต่อไปจะให้สํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด จัดทําแผนการตรวจติดตามการใช้รถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในกระดาษทําการ (แบบ ตส.2) ได้กําหนดให้มีการตรวจสอบการใช้และรักษารถยนต์ไว้แล้ว ดังนั้น จึงขอให้จังหวัดแจ้งสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ให้กลุ่มงานการเงิน บัญชี และการตรวจสอบ ดําเนินการ ตรวจสอบการใช้รถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามแผนการตรวจสอบประจําปี และกําชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดําเนินการต่อไป