ชาวสวนปาล์มกระบี่ยื่น 'ป.ป.ช.-กฟภ.' หลังพบกลุ่มผู้ต้องหาต่อเติมโรงงานเตรียมสกัดน้ำมันปาล์ม ณ คลองท่อม เตรียมร้องรักษาการยุติธรรมจังหวัดช่วยเหลือเหตุสำนวน DSI ส่งให้ ป.ป.ช.บ่งชี้ชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวการทุจริต
สืบเนื่องจากที่ปรากฎเป็นข่าวเมื่อเดือน ส.ค. 2565 กรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI สืบสวนสอบสวน กรณีที่มีการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด จากเงิน มากกว่า 1,000 ล้านบาท บริหารจนเหลื่อแค่เงินหมื่นบาท และต้องหยุดกิจการสกัดน้ำมันปาล์ม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)รายงานว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายสมชาย เทพจิตร ประธานคณะกรรมการบริหารชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัดไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กระบี่
โดยนายสมชายกล่าวว่า สาเหตุที่ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.จังหวัดกระบี่ก็เพราะว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ว่าจ้างไว้รักษาความสงบเรียบร้อย ที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ครอบครองทรัพย์โดยมีการเทซิเมนต์บนพื้นที่โรงงานและสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ ด้วยเหล็กทาสีเหลืองอย่างดี และมีการปักเสาคอนกรีต จำนวนหลายต้น และนำหม้อแปลงไฟฟ้า มาติดตั้ง ที่พื้นที่ที่มีการเทซีเมนต์ไว้ หากดูจากเจตนา น่าจะเป็นการต่อเติมขยายโรงงานเพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าเตรียมความพร้อมเพื่อทำการสกัดใช้โรงงานในการสกัดน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโรงงานและต่อเติมโรงงาน
นายสมชายกล่าวว่า ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ และเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ในฐานะเจ้าของโรงงาน ไม่อนุญาตและไม่รู้เห็นในการดำเนินการ ในเรื่องนี้ ซึ่งชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ได้ยืนหนังสือคัดค้านและแสดงเอกสารสิทธิ์ต่อผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกระบี่ อีกครั้ง แล้ว และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จะรักษาสิทธิ์ ด้วยการเดินหน้าทวงคืนทรัพย์สินที่เป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมแห่งนี้ต่อไป
ประธานชุมนมุสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ กล่าวอีกว่า กลุ่มเกษตรกรผู้มีส่วนได้เสียการทุจริตและยักยอกทรัพย์ชุมนมุสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ได้รวมตัวกันล่ารายชื่อเพื่อยืนหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ ไฟฟ้าจังหวัดกระบี่ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กระบี่ เพื่อกระตุ้นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ปฎิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ ในส่วนของหนังสือที่ได้ยืน ป.ป.ช.กระบี่ เป้าหมายเพื่อแจ้งให้ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ทราบว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ขานรับนวัฒกรรมของ ป.ป.ช.ในการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศเรา โดยที่กลุ่มตัวแทนเกษตรกรจะสะท้อนภาพให้เห็นว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จะไม่ทนต่อการทุจริตอีกต่อไป จะลุกขึ้นมาสู้กับการทุจริตของหน่วยงานราชการและจะต่อสู้กับกลุ่มที่สนับสนุนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ
"การที่กลุ่มนายทุนและอดีตผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ของชาวบ้าน หรือเกษตรกรจำนวนมาก นั้นเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และในการครอบครองโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ไปสกัดน้ำมันปาล์มขาย มีรายได้ที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว กำไร วันละ แปดแสนบาท ถึง หนึ่งล้านบาท ลองคิดเอาว่า การที่กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองทรัพย์มาปีกว่า ทำเงินได้เท่าได้ และเข้าใจว่าเงินนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองการทุจริตของเจ้าหน้าที่หรือไม่อย่างไร" นายสมชายกล่าว
ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่กล่าวต่อว่าการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 215/2565 ป.ป.ช.นั้น ในความหมายชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริตในคดีนี้ ขณะนี้เรามีความคาดหวังว่า การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมย้ายพรรค จะเป็นโอกาสอีกครั้งของชาวสวนปาล์มที่จะประสานและนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเกษตรกร มากกว่า 50,000 ครอบครัวถูกกระทำโดยข้าราชการที่ร่วมกันทุจริต ไปร้องขอความช่วยเหลือจาก รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ทบทวนเรื่องราวต่างๆอีกครั้งและหวังว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จะได้รับความเป็นธรรมและคาดหวังว่าท่านรัฐมนตรีอนุชา รักษาราชการรัฐมนตรียุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่”กล่าวในที่สุด
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้กลุ่มผู้ต้องหาครอบครองดูแลทรัพย์จากการยึดอายัดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ตาม พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 24 โดยขณะนั้นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และนายไตรยฤทธ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะนั้นลงพื้นที่ทำการยึดอายัดทรัพย์ของกลางซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ด้วยตัวเอง
แต่ส่งมอบการครอบครองทรัพย์ให้กับผู้ร่วมกระทำความผิดที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อกล่าวหา สร้างความไม่พอใจให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างมาก ในเวลาต่อมาได้ยืนหนังสือถึง ปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อทวงถามความเป็นธรรมในเรื่องทรัพย์ของกลาง ก่อนที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช. ซึ่งทำให้ทรัพย์ของกลางถูกส่งตามสำนวนการสอบสวนไปด้วย
และกลุ่มผู้กระทำความผิดใช้ช่องว่างระหว่างสำนวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปยัง ป.ป.ช.เปลี่ยนแปลงต่อเติมโรงงาน ซึ่งทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเคลื่อนไหวอีกครั้งโดยการเตรียมการเพื่อเดินทางไปเข้าพบและร้องขอความเป็นธรรมจาก รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเตรียมความพร้อมในการจะยื่นถวายฎีกาเพื่อรักษาทรัพย์ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ที่เป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ดีที่สุดของประเทศไทยไว้
- ผู้ต้องหายังครอบครองของกลาง! ส.สวนปาล์ม จี้ รมว.ยธ.ทบทวนคดีทุจริตยึดทรัพย์ 500 ล.
- อธิบดีDSI ลุยเอง! นำคณะฯ โชว์หมายศาลค้นยึดทรัพย์คดีทุจริต ส.สวนปาล์มฯ กระบี่ 500 ล.
- ดีเอสไอบุกตรวจค้นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม จ.กระบี่ ปมทุจริตชุมนุมสหกรณ์
- 'สมศักดิ์'ยันรู้ตัวคนผิดคดีทุจริตสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ เตรียมแจ้งข้อหาภายใน มิ.ย.นี้
- มีคนการเมือง-ธนาคารเอี่ยว! คดีทุจริตสหกรณ์ปาล์มกระบี่จ่อแจ้งข้อกล่าวหา ล็อตแรก4-5 ราย