อสส.แจงความคืบหน้าตั้ง 5 คณะทำงานตรวจสอบ 6 คดีใหญ่ รวมคดี บ.เสี่ยเปรมชัยรุกป่า,คดีเสี่ยกำพล,คดีแทนไท,คดีเผาสวนงู เบื้องต้นยังไม่พบความผิด รับเหตุที่ต้องตั้งคณะทำงานเพราะเป็นคดีที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร ขอประชาชนไว้ใจ เหตุคณะทำงานเป็นว่าที่ อสส.หลายคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้า หลังน.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง 6 คดีสำคัญ ที่ก่อนหน้านี้ อัยการผู้รับผิดชอบคดี มีคำสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่คดีเผาสวนงูภูเก็ต , คดีของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก , คดีซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก หรือคดีที่บริษัทเครือของนายเปรมชัย กรรณสูต ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่า , คดีของนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก , คดีบ่อนพนันออนไลน์มาวินเบตดอทคอม , และคดีจับยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 400,000 เม็ดที่จังหวัดนนทบุรี รวม 6 คดี โดยได้ แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบรวม 5 คณะ โดยเร่งด่วน
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีการตรวจสอบทั้ง 6 คดี เนื่องมาจาก ทีมงานของอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบข่าวต่างๆที่มีการนำเสนอต่อสื่อมวลชน และจากบุคคลหลายส่วนรวมถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่มายื่นเรื่องร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด และคณะทำงานเห็นว่าเป็นคดีที่อาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร จึงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าคำสั่งและสำนวนคดีเป็นไปด้วยความถูกต้อง หรือไม่ และอาจมีการเรียกพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือสื่อมวลชนที่มีการเผยแพร่ข่าว เข้ามาให้ข้อมูลด้วย โดยหากพบว่ามีประเด็นใดที่บกพร่องก็จะรายงานต่ออัยการสูงสุดโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่ากรอบระยะเวลาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน
ส่วนพนักงานอัยการ เจ้าของสำนวน ทั้ง 6 คดี เบื้องต้นยังไม่ความผิดใด แต่หาก การตรวจสอบ สำนวน พบข้อบกพร่อง ก็ต้องนำเสนออัยการสูงสุดพิจารณาก่อนว่าจะดำเนินการทางวินัย อย่างไรหรือไม่ ส่วนจะถึงขั้นมีการรื้อคดีหรือไม่ ก็ต้องพิจารณา ตามข้อกฎหมาย ว่า เข้าหลักเกณฑ์ การขอรื้อคดีหรือไม่ เช่น จะต้องพบพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งกฎหมายมีแนวทางไว้ให้อยู่แล้ว
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก หน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบ แทนที่จะเป็นอัยการตรวจสอบอัยการด้วยกันเอง รองโฆษกอัยการสูงสุดกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกอาจไม่ทราบถึงระเบียบและแนวทางการทำงานของพนักงานอัยการเท่าคณะทำงานที่แต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งคณะนี้เป็นว่าที่ อัยการสูงสุดหลายท่าน ที่จะมาทำงานสานต่อภารกิจจากอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะหมดวาระในอีกประมาณ 7 เดือน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและไว้วางใจคณะทำงานชุดนี้