ศาลปกครองกลางยกคำขอ 'สืบพงษ์' ร้องจัดการ'สภา ม.รามฯ' ปมไม่ปฎิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา ย้ำยังคงสถานะอธิการบดี แนะใช้สิทธิทางกฎหมายแยกอีกกรณี ถ้าได้รับความเสียหาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอให้บังคับตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ บ.362/2565 ระหว่าง นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ผู้ฟ้องคดี กับ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) ที่ 1 ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภา ม.ร.ทำหน้าที่แทนนายกสภา ม.ร.ที่ 2 นายกสภา ม.ร.ที่ 3 และ ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร ที่ 4 ผู้ถูกฟ้องคดี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คดีนี้ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 กำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา
ต่อมา ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งบังคับตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ฟ้องคดี และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ได้รับแจ้งคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 คำสั่งดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย อันมีผลทางกฎหมายให้มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 21/2565 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดี ม.ร.และที่แต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ม.ร.
รวมทั้ง คำสั่งสภา ม.ร.ที่ 119/2565 เรื่อง ถอดถอนอธิการบดี ม.ร.ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดี ม.ร.และคำสั่งสภา ม.ร.ที่ 120/2565 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่แต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ม.ร.ถูกทุเลาการใช้บังคับเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีจึงยังคงมีสถานะทางกฎหมาย อำนาจ และหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดี ม.ร.ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดี ม.ร.ลงวันที่ 14 กันยายน 2564 ดังเดิม จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาเป็นอย่างอื่น
กรณีนี้ จึงไม่มีเหตุที่ศาลต้องบังคับตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด
ส่วนกรณีหากผู้ฟ้องคดีเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาของศาลปกครองกลาง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดี ย่อมเป็นเรื่องที่ผู้ฟ้องคดีต้องไปว่ากล่าวใช้สิทธิตามกฎหมายในเรื่องนั้นๆ แยกต่างหากเป็นอีกกรณีต่อไป จึงมีคำสั่งยกคำขอของผู้ฟ้องคดี