ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นให้รับคดีเพิกถอนสรรหา นิวัติไชย นั่งเลขาฯ ป.ป.ช. ไว้พิจารณา ชี้ 'ประหยัด พวงจำปา' ผู้ฟ้องคดีมิใช่ ผู้เดือดร้อน ปม เสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหาย ปม ป.ป.ช.แต่งตั้งมีมติแต่งตั้ง 'นิวัติไชย'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางมีการอ่านคำสั่งคดีที่ นายประหยัด พวงจำปา ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช). กับพวกรวม 2 ราย ต่อ ศาลปกครอง ซึ่งเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งตั้ง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เป็นเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
โดยศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง ให้รับคดีที่นายประหยัดยื่นฟ้อง โดยให้เหตุผลว่านายประหยัดนั้นไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อนจากกรณีที่ พล.ต.อ.วัชรพลได้เสนอชื่อให้แต่งตั้งนายนิวัติไชยกับทาง ป.ป.ช.
สำหรับคำสั่งศาลสรุปได้ว่าเมื่อผู้ฟ้องคดีอ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ป.ป.ช.) ไม่ได้แจ้ง มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 122/2564 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ให้ผู้ฟ้องคดีทราบ แต่เมื่อผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ 7 กันยายน 2554 อุทธรณ์มติดังกล่าวของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงฟังได้ว่า ผู้ฟ้องคดีได้ทราบมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 122/2564 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 อย่างช้าที่สุดในวันที่ 7 กันยายน 2564 กรณีจึงถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันที่ผู้ฟ้องคดีรู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดี จึงต้องยื่นฟ้องคดีในข้อหานี้ต่อศาลภายในวันที่ 7 กันยายน 2565 การที่ผู้ฟ้องคดีนําคดีในข้อหานี้ มายื่นฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 จึงเป็นการยื่นฟ้องคดีภายในกําหนด ระยะเวลาการฟ้องคดีตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน ศาลปกครองชั้นต้น จึงมีอํานาจรับคําฟ้องของผู้ฟ้องคดีในส่วนที่ขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 122/2564 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่เห็นชอบให้นายนิวัติไชย เกษมมงคล เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง ผลการคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ไว้พิจารณาพิพากษาได้
ส่วนกรณีที่ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งเพิกถอนคําสั่งของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่เลือกนายนิวัติไชย เกษมมงคล ให้ดํารงตําแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น เห็นว่า ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง คุณสมบัติและวิธีการได้มาซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2564 ข้อ 12 วรรคหนึ่ง กําหนดว่า ให้คณะกรรมการ สรรหาเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาจํานวนไม่เกินสามราย พร้อมทั้งระบุเหตุผลและ ความเหมาะสมของผู้ที่ได้รับการสรรหาดังกล่าวต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. ข้อ 13 วรรคหนึ่ง กําหนดว่า ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเลือกผู้ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งจากรายชื่อ ที่คณะกรรมการสรรหาเสนอ จํานวนหนึ่งราย และเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา ให้ความเห็นชอบ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า หลังจากที่คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ดําเนินการสรร หาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประธานกรรมการสรรหาฯ ได้รายงานผลการสรรหาต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (พล.ต.อ.วัชรพล) ว่า คณะกรรมการสรรหาฯ มีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อ ผู้ฟ้องคดี นายนิวัติไชย เกษมมงคล และนายอุทิศ บัวศรี เป็นผู้ที่ได้รับการสรรหาเพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 พิจารณาคัดเลือกผู้ที่สมควรจะได้รับ การแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. โดยในวันเดียวกัน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้เลือก นายนิวัติไชย เกษมมงคล เป็นผู้ที่สมควรได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อเสนอ ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 122/2564 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยกับรายชื่อผู้สมควร ได้รับการคัดเลือกตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เสนอโดยได้มีมติเอกฉันท์เลือกนายนิวัติไชย เกษมมงคล ให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว ตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง ผลการคัดเลือกบุคคล เพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2504
กรณีจึงเห็นได้ว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคําสั่งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 เลือกนายนิวัติไชย เกษมมงคล ให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น มีลักษณะเป็นเพียงขั้นตอนการดําเนินการ ก่อนที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะพิจารณาให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือก จึงเป็นเพียงการเตรียมการ และการดําเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคําสั่งทางปกครอง อันเป็นการพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ ผู้เดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เสนอชื่อ นายนิวัติไชย เกษมมงคล ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในอันที่จะมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งให้เพิกถอนคําสั่งดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคําสั่งไม่รับคําฟ้องไว้พิจารณาและให้จําหน่ายคดีออกจากสารบบความ นั้น ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย
จึงมีคําสั่งกลับคําสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคําฟ้องในส่วนที่ฟ้องขอให้ศาล มีคําพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 122/2564 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่เห็นชอบให้นายนิวัติไชย เกษมมงคล เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มได้:http://bit.ly/41eeTTm