ตำรวจฮ่องกงออกประกาศเตือนหลัง รองประธานบริษัทแฟชั่นฮ่องกงถูกมิจฉาชีพชวนให้อุปการะลูกแมวจากประเทศไทย ก่อนหลอกเอาเงินในรูปแบบคริปโต สูญเงินกว่า 25 ล้าน หลังอีกฝ่ายอ้างแมวตายระหว่างขนส่งต้องเสียเงินค่าประกัน ค่าการจัดการเผยโอนเงินตั้งแต่เดือน ก.ค.-พ.ย.65 ก่อนเหยื่อรู้ตัวตอนเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวที่เกี่ยวกับสถานการณ์อาชญากรรมในต่างประเทศที่โยงใยมาถึงประเทศไทยว่า สำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้ออกคำเตือนให้ผู้ที่มีความต้องการจะรับอุปการะสัตว์เลี้ยงได้ระวังขบวนการฉ้อโกง โดยได้รายงานถึงกรณีที่ผู้บริหารบริษัทแฟชั่นในฮ่องกงรายหนึ่งถูกหลอก โดยเธอคิดว่าจะได้รับเลี้ยงลูกแมวจากประเทศไทย แต่กลายเป็นว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลับหลอกให้เธอโอนเงินมากกว่า 764,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (25,579,866 บาท) ในรูปแบบของบิทคอยน์แทน
โดยผู้บริหารบริษัทในวัน 58 ปี คนดังกล่าวนั้นเป็นผู้หญิงและเป็นรองประธานบริษัทแห่งหนึ่งในฮ่องกง ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเชื่อว่าได้ติดต่อกับใครคนหนึ่งที่ประกาศหาผู้อุปการะลูกแมวอายุ 3 เดือน
สำหรับการติดต่อกันครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบการติดต่อออนไลน์ โดยเธอได้ติดต่อไปยังบุคคลที่ไม่ระบุนามรายหนึ่งในช่วงเดือน เม.ย. 2565 และก็ยังคงติดต่อกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp มาโดยตลอด
ผู้บริหารตำแหน่งรองประธานบริษัทกล่าวต่อไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอได้รับการแจ้งว่าจะสามารถรับอุปการะลูกแมวไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆแต่ว่าเธอจะต้องจ่ายเงินในส่วนของค่าขนส่งและค่ารับประกันสินค้า โดยจะต้องจ่ายในรูปแบบของคริปโตเคอเรนซี (สกุลเงินดิจิทัล)
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวต่อไปว่าเธอจึงได้ปฏิบัติตามโดยการเปิดบัญชีคริปโตเคอเรนซี และส่งเงินไปยังบัญชีเงินอีเล็กทรอนิกส์หรือ e-wallet ของกลุ่มมิจฉาชีพ
หลังจากที่เธอจ่ายเงินไปแล้วเธอได้รับแจ้งว่าลูกแมวได้ตายแล้วในระหว่างกระบวนการขนส่ง และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ปรากฏบุคคลนิรนามอีกรายที่อ้างตัวว่าเป็นลูกจ้างของธนาคารในต่างประเทศ ติดต่อเธอมา โดยอ้างว่าเธอต้องจ่ายเงินสำหรับการตายของลูกแมว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินในส่วนของค่าประกันลูกแมวก่อนหน้านี้คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (5,022,225 บาท)
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวต่อไปว่ารองประธานบริษัทรายนี้ยังต้องจ่ายเงินไปอีกน้อยอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้พบว่าเป็นการจ่ายเงินในส่วนของค่าประกันหรือว่าค่าบริหารจัดการ ซึ่งเธอก็ได้ดำเนินการไปตามคำแนะนำ จนถึงจุดหนึ่งเธอพบว่าการติดต่อของเธอทั้งหมดกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง ซึ่งจนถึงจุดนั้นเธอได้จ่ายเงินในรูปแบบของคริปโตเคอเรนซี่และส่งไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพไปแล้วเป็นเงินกว่า 764,574 ดอลลาร์สหรัฐฯ (25,599,084 บาท)
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจำนวนบิทคอยน์ที่ได้มีการโอนไปในกรณีนี้พบว่ามีจำนวนอยู่ที่ 40 บิทคอยน์ และการโอนบิทคอยน์ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.ถึง พ.ย. จนกระทั่งเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา รองประธานบริษัทรายนี้จึงรับทราบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เธอจึงได้นำเรื่องมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครที่ถูกจับกุมเกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด
เรียบเรียงจาก:https://www.scmp.com/news/hong-kong/law-and-crime/article/3209318/hong-kong-fashion-company-vice-president-loses-hk6-million-bogus-kitten-sale-prompting-police-alert,https://www.insider.com/bitcoin-scam-thailand-kitten-hong-kong-woman-lose-2023-2