ป.ป.ช.เผยมีความร่วมมือกับมาเลเซียต่อต้านทุจริต รับยังไม่ได้รับรายงานจากฝั่งมาเลเซียปม ตร.ไทยเรียกเงินเหยื่อถูกขโมยรถจากกัวลาลัมเปอร์ เผยตอนนี้ให้ ป.ป.ช.ภาค 8 ลงไปป้องปรามทุจริตแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการมอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช. สงขลาไปตรวจสอบกรณีชาวมาเลเซียถูกขโมยรถจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำเข้ามาที่ประเทศไทย แต่ตำรวจไทยมีการเรียกเงินแลกกับการขอรถคืนนั้น ว่า ว่า ป.ป.ช.ได้ลงนามความร่วมมือกับมาเลเซียในด้านการต่อต้านการทุจริต ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานกลับมา แต่มีการมอบหมายให้ลงไปตรวจสอบว่ามีข่าวลักษณะนี้เข้ามา ทางมาเลเซียมีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างไร และการดำเนินการเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงาน มีหลักฐานอะไรบ้างสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน ป.ป.ช.ได้ลงพื้นที่ไปป้องปรามทั้งให้ ป.ป.ช.ภาค 8 ลงตรวจสอบกรณีการเบิกเบี้ยเลี้ยงนักบินในกองบินจังหวัดสุราษฎร์ ซี่ง ป.ป.ช.เฝ้าเกาะติดสถานการณ์ที่เป็นประเด็น หรือสืบเสาะประเด็นทุจริตในพื้นที่ต่างๆ ลงไปตรวจสอบข้อมูล เป็นการทำงานเชิงรุก ระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุ
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการเข้า-ออกราชอาณาจักร ของหน่วยงาน สตม.นั้นได้มอบหมายสำนักมาตรการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบมาตรการการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดูว่ามาตรการไหนวางไว้แล้วและประสบความสำเร็จหรือไม่ หากไม่ประสบความสำเร็จ มีช่องว่าหรือช่องโหว่จุดไหน โดยนำเคสต่างๆที่คนต่างประเทศสามารถเข้าออกเมืองได้อย่างดี มีใบอนุญาตผ่าน ตม.มีการรับรอง การประกอบอาชีพ และมีการใช้ทะเบียนบ้านปลอมเพื่อตั้งเป็นมูลนิธิ โดยจะมีการรวบรวมข้อคิดเห็นเพื่อวางมาตรการในเชิงระบบเพื่ออุดช่องโหว่ ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีโอกาสใช้ตำแหน่งหน้าที่ตนเองเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ เช่นผู้โดยสารหรือขอเข้าประเทศเข้ามาผ่านกระบวนการอะไร ใช้ระบบอิเล็กทรอกนิกส์ หรือใช้คนเข้าไปรับ และบัตรผ่านอนุญาตเข้าพื้นที่มากน้อยขนาดไหน ซึ่งเห็นว่าการเข้าไปรับผู้โดยสาร ก็มีหลักเกณฑ์ขั้นตอนชัดเจน โดย ป.ป.ช.จะดูมาตรการเหล่านี้ หากวางแล้วหละหลวง แสดงว่าผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลย ดังนั้นผู้บังคับบัญชาต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในการดำเนินการด้วย
“ในกระบวนการเข้าประเทศ เข้ามาอย่างไร ผ่านระบบอะไรบ้าง ระบบนั้นใช้ระบบอิเล็กรอกนิกส์ หรือระบบคนเข้าไปรับ อย่างที่บอก ว่าทำไมๆอยู่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปได้ บัตรผ่านนี้อนุญาตได้ถึงระดับไหน เพราะฉะนั้นทุกที่ทุกแห่งมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว มีระบบควบคุมอยู่แล้ว ผู้บังคับบัญชามีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ อันนี้อาจจะเป็นช่องว่าง ผมคิดว่ามีหลักเกณฑ์ ระบบขั้นตอนอยู่แล้วในการรับผู้โดยสาร ว่าใครสามารถเข้าไปรับได้อย่างไร ไม่ใช่ว่ามีบัตรเดินเข้าออกตลอด จะไปรับใคร จะไปขนสินค้าอะไรก็ได้ตลอดเวลา” นายนิวัติไชยกล่าว.