ป.ป.ช.พร้อมสอบ-ประสานมาเลเซีย หลังสื่อมาเลย์ฯ แฉ จนท.ไทยเรียกเงินสินบนแลกปล่อยรถ รับกรณีนี้ความผิดคล้าย ผกก.โจ้ แปลกใจที่ผ่านมาทำไม จนท.มาเลย์ฯไม่ค่อยให้ความร่วมมือปมรถถูกลักลอบนำข้ามแดน ส่วนจะให้ ป.ป.ช.มาเลย์ฯสอบ จนท.มาเลย์ฯหรือไม่ คงต้องรอให้ตำรวจไทยตั้งเรื่องมาก่อน
สืบเนื่องจากที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รายงานข่าวกรณีที่สำนักข่าว The Star ของประเทศมาเลเซียได้ลงข่าวเหยื่อในประเทศมาเลเซียซึ่งถูกขโมยรถจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนที่รถจะถูกนำมาไว้ที่ จ.สงขลา โดยเมื่อเหยื่อที่ถูกขโมยรถไปติดต่อกับตำรวจไทยที่สถานีตํารวจภูธรสะเดาเพื่อขอรถคืน ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกเงินค่าของขวัญประมาณ 2-7 หมื่นบาท และเมื่อได้รับรถคืนมาแล้วก็ปรากฎว่ามีการถอดชิ้นส่วนบางอย่างออกไป
ขณะที่พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้จเรตำรวจมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วในทุกๆเรื่อง โดยได้สั่งการไปในวันแรกๆที่ปรากฎเป็นข่าวออกมา
- โฆษกฯเผย ผบ.ตร.สั่งสอบแล้ว หลังสื่อมาเลย์ฯแฉตำรวจไทยเรียกเงินแลกปล่อยรถถูกขโมยข้ามพรมแดน
- สื่อมาเลย์ฯ แฉ ตร.ไทยเรียกเงิน 2-7 หมื่น เหยื่อถูกขโมยรถจากกัวลาลัมเปอร์ ก่อนขับมาสงขลา
ล่าสุดสำนักข่าวอิศราได้มีการไปสอบถามประเด็นเรื่องการตรวจสอบกับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยนายนิวัติไชยได้กล่าวว่าเรื่องนี้นั้นยอมรับว่าคงต้องให้ ป.ป.ช.ภาค 9 ที่รับผิดชอบในพื้นที่ช่วยตรวจสอบด้วย และคงต้องให้เจ้าหน้าที่มีการประสานงานกับทางมาเลเซียอีกด้านหนึ่งด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็มีช่องทางการติดต่อกับ ป.ป.ช.ของมาเลเซียหรือว่า MACC อยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ก็คงต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงกันก่อน
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวต่อไปว่าในกรณีดังกล่าวนั้นแม้ว่าจะไม่มีเจ้าทุกข์มาร้องเรียนกับ ป.ป.ช.เพราะว่าเป็นคนมาเลเซีย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นกรณีที่เป็นการเรียกรับเงินจากต่างประเทศ ถ้าหากเขาร้องขอมาเราก็มีการดำเนินการได้เหมือนกัน เพราะกฎหมายของ ป.ป.ช.ในปัจจุบันนั้นไปไกลแล้ว ครอบคลุมถึงความผิดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ กรณีการเรียกรับเงิน เราก็ตามได้
เมื่อถามถึงกรณีการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรถที่ถูกลักขโมยข้ามแดนเข้ามา นายนิวัติไชยพฤติกรรมการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่นั้นมีลักษณะคล้ายกับกรณีของผู้กำกับโจ้ ก็คือเกี่ยวข้องกับรถที่ลักลอบนำข้ามแดนเข้ามา แม้ว่ากรณีนี้จะไม่ใช่รถหรูก็ตาม ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็มีการติดตามในเรื่องการลักลอบนำรถข้ามแดนมาเหมือนกัน แต่ปัญหาสำคัญก็คือว่าทางตำรวจมาเลเซียเองก็ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือเท่าไร ก็เป็นเรื่องที่แปลกว่าทำไมเขาไม่สนใจจะติดตามทั้งๆที่ฝั่งเขาเป็นผู้เสียหาย ทั้งที่น่าจะมีกรณีของรถที่ถูกลักลอบนำเข้ามาเป็นร้อยกว่าคันแล้ว
เมื่อถามต่อในกรณีความไม่โปร่งใสของทางเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศ ทาง ป.ป.ช.จะประสานกับ MACC ให้ช่วยตรวจสอบได้อย่างไรบ้าง นายนิวัติไชยกล่าวว่าเรื่องนี้คือว่าทางตำรวจยังไม่ได้ส่งเรื่องมาให้กับ ป.ป.ช. ก็เลยยังไม่สามารถดำเนินการในส่วนนี้ได้ ต้องรอให้เขาส่งเรื่องมาก่อน