สภาการต้านจารกรรมรถมาเลเซียแฉอีก กลุ่มโจรเน้นขโมยรถโปรตอนรุ่นเก่า โตโยต้า ไฮลักซ์ มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า ก่อนนำข้ามชายแดนไทย เผยทางการจับไม่ได้เหตุกลุ่มอาชญากรเน้นจ้างทีมปฏิบัติการณ์ไม่ซ้ำกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้าเพิ่มเติมหลังจากที่มีรายงานข่าวจากสำนักข่าว The Stars เปิดโปงกรณีที่เจ้าหน้าทีตำรวจไทยเรียกรับเงินของขวัญจากเหยื่อที่ถูกขโมยรถจากประเทศมาเลเซียแล้วรถถูกขับมายัง จ.สงขลาประเทศไทย ซึ่งมีการขู่ว่าถ้าเหยื่อไม่ยอมจ่ายเงินค่าของขวัญดังกล่าว รถก็จะถูกขายไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ม.ค. มีรายงานข่าวจากสำนักข่าว The Strait Times ของประเทศสิงคโปร์ที่อ้างอิงสำนักข่าว The Star/ ASIA News Network อีกทีหนึ่งระบุว่าสภาการเพื่อลดเหตุการโจรกรรมยานพาหนะของมาเลเซียได้มีระบุว่ารถยนต์ยี่ห้อ ซึ่งเป็นรถที่เคยเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซียนั้นเป็นหนึ่งในรถที่ถูกขโมยมากที่สุดเป็นระยะเวลา 11 ปีติดต่อกัน
โดยนางมาส ทีนา อับดุล ฮามิด ผู้ประสานงานสภาการกล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นมาจากรายงานของบริษัทประกันภัย ซึ่งในปี 2564 พบว่ามีรถโปรตอน วีร่าถูกขโมยไปถึง 131 คันด้วยกัน ตามมาด้วยรุ่นโปรตอน อิสวารา ที่มีรายงานกรณีการขโมยเป็นจำนวน 75 กรณี ส่วนรถเปโรดัว มีวี นั้นถูกขโมยมากที่สุดเป็นอันดับหก
ขณะที่รถจากต่างชาติ (รถที่ไม่ได้ผลิตในมาเลเซีย) พบว่ารถโตโยต้าไฮลักซ์เป็นรถที่ถูกขโมยมากที่สุด โดยมีรายงานการขโมยทั้งสิ้น 65 กรณี ทำให้รถดังกล่าวนั้นอยู่ในอันดับสี่ของรถยี่ห้อที่ถูกขโมยมากที่สุดรองจากรถยี่ห้อเปโรดัว คันซิล
สภาการฯระบุต่อไปด้วยว่ามีรายงานว่ารถหรูอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ถูกขโมยไปนั้นมีราคาขายต่ำที่สุดอยู่ที่แค่ 10,000 ริงกิต (76,531 บาท) หรือไม่ก็รถไฮลักซ์ถูกขายไปด้วยราคา 12,000 ริงกิต (91,633 บาท) ส่วนรถอย่างโปรตอนวีร่าถูกขายไปด้วยราคา 3,000 ริงกิต (22,908 บาท)
“รถโปรตอนวีร่าเป็นรถที่เคยเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง และก็ยังคงวิ่งอยู่บนท้องถนนแม้ว่าสายการผลิตจะปิดลงไปตั้งแต่ปี 2552 แล้วก็ตาม” นางมาส ทีน่ากล่าวและกล่าวต่อไปว่ามีบ่อยครั้งที่พบว่ากลุ่มจารกรรมรถมักจะเป็นซัพพลายเออร์อะไหล่รถยนต์โปรตอนวีร่าเสียเอง
นางมาส ทีน่ากล่าวว่ากลุ่มจารกรรมรถนั้นมักจะเล็งเป้าไปที่รถโมเดลเก่าๆและเป็นที่นิยมมากกว่า และเธอเชื่อว่าอีกไม่นานกลุ่มจารกรรมรถจะเบนเป้าหมายหลักการจารกรรมไปที่รถยี่ห้อเปโรดัว มีวีแทน
“รถเปโรดัว มีวี ตกเป็นเป้าหมายเพราะว่ารูปลักษณ์ของมัน และข้อเท็จจริงว่ามันยังเป็นหนึ่งในรถยอดนิยมของผู้คน ซึ่งเทรนด์การขโมยรถนั้นก็จะคล้ายๆกับกับโปรตอน วีร่า ตอนนี้เรามีรถเปโรดัว มีวีอยู่บนถนนจำนวนหนึ่ง และก็อาจจะเป็นเป้าหมายต่อไปก็เป็นได้ถ้าหากสายการผลิตหยุดลง” นางมาส ทีน่ากล่าวและกล่าวต่อไปว่าโดยมากแล้วรถที่ถูกขโมยไปจะถูกนำกลับไปขายต่อภายในประเทศมาเลเซียนั่นเอง
ผู้ประสานงานสภาการฯกล่าวต่อไปว่าจากปัญหาโควิด-19 นั้นส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนอะไหล่รถเป็นอย่างยิ่ง และทำให้ปัญหาการจารกรรมรถหนักขึ้นด้วยเช่นกัน
สภาการฯยังได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว The Star เพิ่มเติมด้วยว่าสำหรับรถจักรยานยนต์นั้นพบว่ารถยี่ห้อยามาฮ่า 135LC เป็นจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยในทุกๆวันทำให้เป็นจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยบ่อยที่สุดในปี 2564 ตามมาด้วยรถยามาฮ่า Y15Rที่มีรายงานกรณีการขโมยอยู่ทั้งสิ้น 151 กรณี
“โดยปกติแล้ว กลุ่มโจรจะเล็งเป้าไปที่โมเดลรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อจะขโมย นำไปแยกชิ้นส่วน และขายอะไหล่ ซึ่งกลุ่มโจรนั้นจะขายยามาฮ่า 125Z ด้วยราคา 1,500 ริงกิต (11,452 บาท) ขายยามาฮ่า 135LC ด้วยราคา 500 ริงกิต (3,817 บาท) และขายฮอนด้า EX5 และฮอนด้าเวฟด้วยราคาประมาณ 300 ริงกิต (2,290 บาท)” นางมาส ทีน่ากล่าว
โดยลูกค้าที่ตกลงในข้อเสนอราคาขายของกลุ่มโจร จะมีการโอนเงินไปยังบัญชีที่เป็นของเครือข่ายอาชญากรก่อนที่รถซึ่งถูกขโมยมาหรือว่าอะไหล่นั้นจะส่งไปยังลูกค้า โดยใช้บริการขนส่งพัสดุลงทะเบียน
ผู้ประสานงานสภาการฯกล่าวต่อไปว่าเป็นการยากมากสำหรับทางการในการต้อนกลุ่มอาชญากรเหล่านี้ให้จนมุมเพราะว่าพวกเขามักว่าจ้างกลุ่มบุคคลอื่นที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละครั้งให้ทำงานให้
“พวกเขา (กลุ่มอาชญากร) มีการจ้างคนหลายกลุ่มที่แตกต่างกันออกไปให้ดำเนินการจารกรรม และจ้างคนกลุ่มที่แตกต่างกันออกไปอีกให้ขนส่งรถที่ถูกขโมย ขับมายังประเทศไทย และคนที่ดำเนินการขายรถเหล่านี้ก็เป็นคนอื่นๆอีก” นางมาส ทีน่ากล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/proton-wira-is-most-stolen-vehicle-in-malaysia