'ชนิษา วิมลวัฒนา' นายกเทศฯสองพี่น้อง แจง 'อิศรา' พร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หากได้รับคำสั่งไม่กล้าฝ่าฝืน หลังศาลฯ รับฟ้องคดีโดน ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตโครงการฝึกอบรมสัมมนาฯ ปี 50 ล่าสุด มท.ทำหนังสือแจ้งเวียนคำวินิจฉัยกฤษฎีกา ให้ ผู้ว่าฯ -นายอำเภอทั่วปท.กำกับดูแล อปท.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ทำหนังสือแจ้งประธานสภาเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ให้รอกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เวียนความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนสั่งให้ น.ส.ชนิษา วิมลวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 หลังโดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการฝึกอบรมสัมมนาฯ ที่จ.ชลบุรี เมื่อปี 2550 ซึ่งศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำสั่งประทับรับฟ้อง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุด น.ส.ชนิษา วิมลวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง ให้สัมภาษณ์โทรศัพท์ชี้แจงกรณีดังกล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า ยังไม่ได้รับหมายหรือหนังสืออะไรมาถึงเทศบาลฯเลย ถ้าหนังสือมาถึงแล้ว ก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
"ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่ง หากมีหนังสือคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อไร จะหยุดทันที" น.ส.ชนิษาระบุ
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสุธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด (ยกเว้นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์) เพื่อแจ้งเรื่อง หารือกรณีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยอ้างถึง หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด ที่ มท. 0804.3/ว 3069 ลงวันที่ 28 ก.ย. 2565
ระบุว่า ตามที่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งเวียนแนวทางปฏิบัติกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของผู้บริหารท้องถิ่น และได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับ รับฟ้องแล้ว อันเป็นการกระทำความผิดในวาระที่ผ่านมา ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารท้องถิ่นอีก โดยบุคคลดังกล่าวจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 81 ประกอบมาตรา 93 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งว่า ให้รอผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้การดำเนินการกรณีดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและไม่เกิดความเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง นั้น
กระทรวงมหาดไทยขอเรียนว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ แนวทางปฏิบัติกรณีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565 เรื่อง การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงขอส่งความเห็น ของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป (ดูหนังสือท้ายเรื่องประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามติดต่อนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องการออกคำสั่งให้ น.ส.ชนิษา วิมลวัฒนา นายกเทศมนตรีเมืองสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
อนึ่งเกี่ยวกับกรณีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ :