'ประธาน ป.ป.ช.' เผยสอบกรณีเปลี่ยนป้าย 33 ล้าน สถานีกลางบางซื่อต้องทำให้รอบคอบ ถ้ามีมูลพร้อมตั้ง กก.ไต่สวน ยันเร่งสอบข้อร้องเรียนจริยธรรมนักการเมือง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.วัชรพล ประสานรัชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการยื่นให้ ป.ป.ช.สอบการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อที่มีวงเงินถึง 33 ล้านบาทว่า เป็นเรื่องที่สังคมสนใจ โดยในขณะนี้ได้ขอข้อมูลไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย หากทำรวดเร็วมากเกินไป อาจจะไม่รอบคอบ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการถูกกล่าวหา แต่ถ้าหากมีมูล มีพยานชัดเจน ก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง.
พล.ต.อ.วัชรพลยังกล่าวต่อถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะจริยธรรมนักการเมือง และส.ส.ในช่วงที่ใกล้การเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้มีการดำเนินการตามที่มีการส่งเรื่องเข้ามา เช่น กรณีการถือครองที่ดินก็จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย และบางเรื่องจะส่งต้นสังกัดไปตรวจสอบถึงคุณสมบัติ โดยการไต่สวน หากข้อมูลไม่เพียงพอก็ต้องส่งข้อมูลไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ถ้ากรณีใดเข้าข่ายละเมิดจริยธรรม ป.ป.ช.จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน
“ป.ป.ช.ให้ความสำคัญในกรณีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะเป็นบุคคลสาธารณะจะทำให้รวดเร็ว โดยถ้าเรียงตามลำดับก็จะใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นป.ป.ช.จะทำงานใน 2 ระบบ คือถ้ามีการส่งเรื่องมาที่เป็นเรื่องเก่าก็เร่งรัดให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่และกระทบประชาชนกระทบสังคม ป.ป.ช.ก็จะพยายามเร่งรัดและทำให้รวดเร็ว ถ้าเรื่องใดทำไม่ถูกต้อง” พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว