ตร.กาฐมาณฑุจับ 2 ชาวจีน เอี่ยวหลอกชาวเนปาลไปทำงานเป็นสแกมเมอร์หลอกลงทุนต่างประเทศที่ลาว พบใช้ช่องทางขนส่งผ่านไทย ชี้เหยื่อเป็นเยาวชนถูกหลอกง่ายจากข้อเสนอเงินเดือนสูงจ่ายเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเว็บไซต์ epardafas.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำนักข่าวของเนปาลได้รายงานข่าวอ้างอิงจากสํานักงานสอบสวนการค้ามนุษย์กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลระบุถึงความเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชาวจีนในประเทศเนปาลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหลายประเภทรวมไปถึงการแฮ็กระบบธนาคารต่างๆและการค้ามนุษย์
ข้อมูลจากสำนักงานสอบสวนฯระบุต่อไปว่าการสืบสวนนั้นพบว่ามีชาวเนปาลจำนวนมากถูกชาวจีนหลอกและถูกส่งตัวไปยังประเทศลาวโดยผิดกฎหมาย ด้วยการหลอกล่อเสนอเงินเดือนให้เป็นมูลค่าสูงมาก
โดยก่อนหน้านี้นายดาน บาฮาดูร์ มัลลา ผู้กํากับการตํารวจภูธรภาคได้ออกมายืนยันว่ามีชาวจีนสองคนได้มีส่วนในการล่อลวงเยาวชนเนปาลจำนวนกว่าสิบคน และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ชาวจีนที่ถูกกล่าวหาทั้งสองคนนั้นพบว่าชื่อนายเฉินหยางและนายรวงเฉาหง โดยทั้งสองมีส่วนเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ได้ถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำก่อนการพิจารณาคดีแล้ว และชาวเนปาลซึ่งมีส่วนร่วมกับขบวนการหลอกลวงก็ถูกนำตัวมาสอบสวนเช่นกัน
โดยชาวจีนสองคนที่ว่ามานี้อยูในเนปาลได้ด้วยวีซ่าสำหรับนักธุรกิจเป็นระยะเวลาห้าปี และหนึ่งในนั้นพบว่ามีประวัติเป็นวิศวกรไอทีและแต่งงานกับผู้หญิงเนปาล การสอบสวนเพิ่มเติมยังได้เปิดเผยอีกว่าชาวจีนเหล่านี้ใช้นายหน้าเนปาลในการขนชาวเนปาลมายังประเทศไทย และจากไทยก็พาขึ้นยานพาหนะไปยังประเทศลาว
ทั้งนี้สาเหตุที่กลุ่มมิจฉาชีพสามารถหลอกและส่งชาวเนปาลมายังประเทศลาวได้ ก็เนื่องมาจากว่ามีการล่อลวงว่าจะเสนอเงินเดือนให้กับชาวเนปาลเป็นจำนวน 1,000-1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (34,730- 52,095 บาท) สำหรับตลาดการค้าขายในประเทศลาว
โดยเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพกล่าวว่าพวกเขาถูกพาไปทำงานในบริษัทไอทีในประเทศลาว แต่พอเมื่อไปถึงพวกเขากลับถูกขอให้เปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กปลอมเพื่อจะหลอกให้ผู้คนจากประเทศต่างๆมาติดกับในการลงทุนบิทคอยน์ ซึ่งในปัจจุบันนั้นพบว่ามีชาวเนปาลอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกค้ามนุษย์โดยชาวจีนตกค้างอยู่ในประเทศลาวและกำลังรอการช่วยเหลืออยู่
ขณะที่นายมัลลาผู้กํากับการตํารวจภูธรภาคกล่าวต่อไปว่าในตอนแรกชาวจีนจะเรียกเอาเงินจากชาวเนปาลที่ถูกหลอกเป็นจำนวนกว่า 390,000 รูปีเนปาล (102,240 บาท) แต่พอเมื่อชาวเนปาลเหล่านี้ไปถึงประเทศลาว ชาวจีนก็ไม่ได้จ่ายเงินให้สำหรับงานที่ชาวเนปาลทำแต่อย่างใด
โดยผลการสืบสวนยังเปิดเผยต่อไปว่าเหยื่อเหล่านี้ซึ่งรู้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนจะเป็นกลุ่มที่ถูกให้ความสำคัญจากกลุ่มมิจฉาชีพเป็นอย่างยิ่ง และในขณะเดียวกันเยาวชนที่เพิ่งจะจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในกาฐมาณฑุก็เป็นผู้ไปติดต่อชาวจีนด้วยตัวเองด้วยความโลภว่าอยากได้รับเงินเดือนเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกหลอกไปทำงานที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากถูกหลอกเป็นระยะเวลากว่าสองเดือน ท้ายที่สุด เหยื่อชาวเนปาลเหล่านี้ก็ได้รับความช่วยเหลือจากญาติของพวกเขา ต่อมาในวันที่ 16 พ.ย. เหยื่อชาวเนปาลก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนปาล และในวันที่ 24 พ.ย. ตำรวจเนปาลก็ได้จับกุมนายเฉินหยาง
อย่างไรก็ตามนายรวงเฉาหงซึ่งทราบข้อมูลว่านายเฉินหยางถูกจับกุมสามารถหลบหนีไปได้แต่ก็ไม่นานนัก เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการเฝ้าระวังที่จุดตรวจต่างๆ ในที่สุดนายรวงเฉาหงก็ถูกจับที่สนามบินนานาชาติตรีภูวันในเช้าวันที่ 25 พ.ย. ก่อนที่เขาจะสามารถหลบหนีไปยังประเทศบังกลาเทศ
และล่าสุดหลังจากการสอบสวนโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลแขวงกาฐมาณฑุ ศาลก็ได้สั่งให้ทั้งสองถูกคุมขังในวันที่ 20 ธ.ค.
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุทิ้งท้ายด้วยว่ายังคงมีชาวเนปาลอีกหลายรายที่ถูกจับเป็นตัวประกันในประเทศลาว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาทางช่วยเหลืออยู่