ตร.ออสเตรเลียเผย ปี 65 ยึดซองชาสอดไส้ยาไอซ์ 2.1 ตัน พบไทยเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาด้วย

ตำรวจออสเตรเลียเผย ปี 65 ยึดยาไอซ์ในรูปแบบซองชาได้ 2.1 ตัน มูลค่ากว่า 2.3 หมื่น ล. พบไทย,เวียดนาม,อินโดนีเซีย,เมียนมา และมาเลเซียเป็นแหล่งที่มาของซองชาสอดไส้ยาไอซ์มากที่สุด  

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเว็บไซต์สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียหรือเอเอฟพีได้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินการยึดยาเสพติดในปี 2565 นี้ว่าในปีนี้ เอเอฟพีสามารถดำเนินการยึดเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)ที่ถูกนำเข้ามาในรูปแบบซองชาได้มากกว่า 2 ตัน คิดเป็นความเสียหายต่อองค์กรอาชญากรรมอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (23,633,850,000 บาท)

ทั้งนี้การใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับชาเพื่อนำไปใช้ขนส่งเมทแอมเฟตามีนที่มีความบริสุทธ์นั้นเป็นสิ่งที่ได้มีการกระทำโดยองค์กรอาชญากรรมมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว

โดยนับตั้งแต่ ม.ค. 2555 เป็นต้นมา เอเอฟพีได้ยึดเมทแอมเฟตามีนที่มาในรูปแบบสินค้านำเข้าได้เป็นจำนวน 35 รายการ น้ำหนักรวมกว่า 10 ตัน

ต่อมาในช่วงปี 2562 ก็มีรายงานว่ามีการลักลอบขนเมทแอมเฟตามีนผ่านบรรจุภัณฑ์ชาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงปี 2563 โดยมีปริมาณการขนส่งในปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 2.3 ตัน

สำหรับในปี 2565 ทางเอเอฟพีได้ขัดขวางไม่ให้มีการนำเข้าเมทแอมเฟตามีนที่มาในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ชา เข้าไปสู่ประเทศออสเตรเลียคิดเป็นปริมาณรวมกว่า 2.1 ตัน ซึ่งจะมีมูลค่าในออสเตรเลียอยู่ที่มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ฯ

 ทั้งนี้ประเทศไทย,มาเลเซีย,เมียนมา ,เวียดนาม และอินโดนีเซียนั้นถูกระบุว่าเป็น 5 ประเทศในลำดับต้นๆซึ่งเป็นต้นทางของเมทแอมเฟตามีนที่มาในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ชา ที่ทางเอเอฟพีสามารถยึดได้

ทางด้านของนายทิมไนท์ รักษาการผู้กำกับการของเอเอฟที่ประจำการอยู่ประเทศมาเลเซียระบุว่าเอเอฟพีได้มีทำงานร่วมกันกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียนในการที่จะขัดขวางการทำงานของกลุ่มอาชญากรที่มีส่วนในการลักลอบขนเมทแอมเฟตามีน

@เมทแอมเฟตามีนในรูปแบบซองชา

ทั้งนี้เมทแอมเฟตามีนที่มีการผลิตในอาเซียนนั้นมักจะมาในรูปแบบซองชา พร้อมกับตราสินค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการปกปิดและวัตถุประสงค์ในด้านการตลาด

โดยซองชาที่มีลักษณะของบรรจุภัณฑ์สีเขียว สีทอง และสีเงินถือว่าเป็นสิ่งที่กลุ่มอาชญากรมักจะต้องการมากที่สุดเพื่อบรรจุเมทแอมเฟตามีน

ทั้งนี้เมทแอเฟตามีนที่มีการผลิตในภูมิภาคอาเซียนนั้นถือว่ามีความบริสุทธ์สูงมากเมื่อเทียบกับเมทแอมเฟตามีนที่ผลิตในภูมิภาคอื่นๆ อาทิในเม็กซิโก ตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่มากับซองชาเหล่านี้สามารถทำให้ราคาขายในประเทศพุ่งสูงขึ้นมาก 

โดยผลจากการจับกุมที่ผ่านมาพบกรณีการบรรจุยาเคตามีนในซองชา ซึ่งเมทแอมเฟตามีนั้นสามารถที่จะซุกซ่องไปในซองชาที่มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมได้  และซองชาที่บรรจุเมทแอมเฟตามีนเหล่านี้ก็จะถูกแนบควบคู่ไปกับซองชาที่บรรจุชาแบบปกติ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้กลุ่มอาชญากรจะมีวิธีการเปลี่ยนและปรับแนวทางการขนยาเสพติดเข้ามายังออสเตรเลียอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางอากาศและทางทะเล เพื่อที่จะหลบเลี่ยงกฎหมาย  ซึ่งวิธีการล่าสุดก็รวมไปถึงการกระจายยาผ่านเรือที่จะมุ่งหน้าไปยังประเทศปลายทาง หรือใช้วิธีการที่ว่าจะมีเรือขนาดใหญ่ที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งคอยจัดสรรยาเสพติดขนส่งขึ้นเรือลำเล็กเพื่อมุ่งหน้าไปยังปลายทางเป็นต้น 

โดยประเทศเมียนมาถูกระบุว่าเป็นสถานที่ผลิตยาเสพติดที่มีความโดดเด่นที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีความพยายามของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายหลายหน่วยงานเพื่อที่ทำให้ปฏิบัติการณ์ผลิตเมทแอมเฟตามีนในรัฐฉานนั้นหยุดชะงักลง  

เรียบเรียงจาก:https://www.afp.gov.au