สถาบันไต้หวันจัดอันดับไทยได้รับอิทธิพลจากจีนมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก พบด้านที่มีอิทธิพลมากที่สุดได้แก่ การทหาร คะแนนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้านด้านกฎหมาย 63.6 เปอร์เซ็นต์ ด้านเทคโนโลยี 61.4 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวอิศรา (www.israenws.org) รายงานข่าวว่าสถาบันศูนย์รวมความคิดหรือว่าทิงค์แทงค์ที่ชื่อว่า Doublethik Labจากกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ได้มีการจัดอันดับประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากการทูต นโยบายต่างประเทศของประเทศจีนสูงที่สุดคิดเป็นอันดับ 4 ของโลก
โดยอันดับดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่อยู่บดัชนีที่เรียกกันว่า China Index ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดอิทธิพลของกรุงปักกิ่งที่มีต่อ 82 ประเทศทั่วโลก ทั้งในด้านของทั้งสถาบันการศึกษา, การเมืองในประเทศ, เศรษฐกิจ, นโยบายต่างประเทศ, การบังคับใช้กฎหมาย, สื่อ, ทหาร, สังคมและเทคโนโลยี
สำหรับในส่วนของประเทศไทยนั้นพบว่ามีค่าคะแนนในด้านสถาบันการศึกษาอยู่ที่ 55 เปอร์เซ็นต์ จากคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 30.1 เปอร์เซ็นต์, การเมืองในประเทศอยู่ที่ 57.5 เปอร์เซ็นต์ จากคะแนนเฉลี่ย 37.2 เปอร์เซ็นต์, เศรษฐกิจอยู่ที่ 54.5 เปอร์เซ็นต์ จากคะแนนเฉลี่ย 33.6 เปอร์เซ็นต์ , นโยบายต่างประเทศอยู่ที่ 56.8 เปอร์เซ็นต์ จากคะแนนเฉลี่ย 41 เปอร์เซ็นต์, การบังคับใช้กฎหมายอยู่ที่ 63.6 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนเฉลี่ย 30.2 เปอร์เซ็นต์, ด้านสื่ออยู่ที่ 54.5 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนเฉลี่ย 30.1 เปอร์เซ็นต์, ด้านการทหารอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนเฉลี่ย 23.4 เปอร์เซ็นต์ , ด้านสังคมอยู่ที่ 47.7 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนเฉลี่ย 23.6 เปอร์เซ็นต์ และเทคโนโลยีอยู่ที่ 61.4 เปอร์เซ็นต์จากคะแนนเฉลี่ย 40.8 เปอร์เซ็นต์
สรุปก็คือประเทศจีนมีอิทธิพลต่อประเทศไทยมากที่สุดในสามด้านด้วยกันได้แก่ด้านการทหาร ด้านการบังคับใช้กฎหมายและด้านเทคโนโลยี
ทั้งนี้ค่าคะแนนอิทธิพลที่ประเทศจีนมีต่อประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 226 คะแนนจากคะแนนเต็ม 384 คะแนน ซึ่งเนื่องจากว่าในแต่ละประเทศนั้นมีปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ทาง Doublethink Lab ได้กำหนดคะแนนเต็มในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไปด้วย
สำหรับประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากจีนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้แก่ประเทศปากีสถาน ได้คะแนน 242 จากคะแนนเต็ม 380 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านเทคโนโลยี นโยบายการต่างประเทศ และการทหาร อันดับสองได้แก่กัมพูชา ได้คะแนน 233 จากคะแนนเต็ม 376 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านการบังคับใช้กฎหมาย การทหาร และนโยบายการต่างประเทศ อันดับสามได้แก่สิงคโปร์ ได้คะแนน 228 จากคะแนนเต็ม 384 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านการบังคับใช้เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา และเศรษฐกิจ
ส่วนอันดับอื่นๆของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียนนั้นพบว่า ประเทศฟิลิปปินส์ได้อิทธิพลจากจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยได้คะแนน 204 จากคะแนนเต็ม 380 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านการเมืองภายในประเทศ การบังคับใช้กฎหมาย และเทคโนโลยี
มาเลเซียได้อิทธิพลจากจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยได้คะแนน 189 จากคะแนนเต็ม 388 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านการบังคับใช้กฎหมาย เทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม
อินโดนีเซียได้อิทธิพลจากจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 16 ของโลก โดยได้คะแนน 176 จากคะแนนเต็ม 396 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมาย และสื่อ
และเวียดนามได้อิทธิพลจากจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 43 ของโลก โดยได้คะแนน 113 จากคะแนนเต็ม 364 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านนโยบายต่างประเทศ เศรษฐกิจ และการบังคับใช้กฎหมาย
สำหรับประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากจีนน้อยที่สุดในโลก ได้แก่ประเทศปารากวัยซึ่งอยู่ในอันดับที่ 82 โดยได้คะแนน 34 จากคะแนนเต็ม 380 คะแนน โดยได้รับอิทธิพลมากสุดในด้านนโยบายต่างประเทศ เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี