ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา "สุขสันต์ เจตน์ฐากูร" สมาชิกสภา อบจ.ชัยภูมิ กับพวกรวม 16 คน ฮั้วประกวดราคาซื้อเครื่องจักรกล 12 รายการ ในส่วน "ฐปกร ฟ้อนรำดี" ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษา ลงโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน ได้รอลงอาญาด้วย -ปรับ 70,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสุขสันต์ เจตน์ฐากูร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ กับพวกรวม 16 คน ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาในการประกวดราคาซื้อเครื่องจักรกล จำนวน 12 รายการ ของ อบจ.ชัยภูมิ ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 7, 11 ,12 และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุด นายฐปกร ฟ้อนรำดี จำเลยอีกรายในคดีนี้ ที่ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน และปรับ 70,000 บาท แต่โทษจำคุกได้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 3 ปี
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ ป.ป.ช. มีการเผยแพร่ความคืบหน้าคดีนี้ ในส่วนของ นายฐปกร ฟ้อนรำดี ซึ่งนับเป็นคดีที่ 4 พบว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาตัดสินว่า นายฐปกร ฟ้อนรำดี มีความผิดตามมาตรา 13 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86
ลงโทษ จำคุก 4 ปี 8 เดือน และปรับ 140,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงลงโทษ นายฐปกร ฟ้อนรำดี จำคุก 2 ปี 4 เดือน และปรับ 70,000 บาท
สำหรับโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
สำหรับพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 13 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือกรรมการหรืออนุกรรมการในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ ต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติการพิจารณา หรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาเพื่อจูงใจหรือทำให้จำยอมต้องยอมรับการเสนอราคาที่มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท
สำหรับคดีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า
คดีแรก
นายสุขสันต์ เจตน์ฐากูร ส.อบจ.ชัยภูมิ ถูกศาลฯ พิพากษาลงโทษจำคุก 7 ปี และปรับ 210,000 บาท ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี 6 เดือน และปรับ 105,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 5 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี
คดีสอง
บริษัท เอ.วี.เอ็น มอเตอร์เวอคส์ จำกัด , นายอภิชาติ ชัยเจริญสุขเกษม, นายปัญญา อุดโท , บริษัท มิตซูอยุธยา (ไทยธาดา) จำกัด และ นางประมวล พฤฒิธาคา ศาลฯ พิพากษาลงโทษ บริษัท เอ.วี.เอ็น มอเตอร์เวอคส์ จำกัด บริษัท มิตซูอยุธยา (ไทยธาดา) จำกัด ปรับแห่งละ 140,000 บาท
นายอภิชาติ ชัยเจริญสุขเกษม นายปัญญา อุดโท นางประมวล พฤฒิธาคา จำคุกคนละ 4 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 140,000 บาท
จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 ลงโทษ บริษัท เอ.วี.เอ็น มอเตอร์เวอคส์ จำกัด บริษัท มิตซูอยุธยา (ไทยธาดา) จำกัด ปรับแห่งละ 70,000 บาท
นายอภิชาติ ชัยเจริญสุขเกษม นายปัญญา อุดโท นางประมวล พฤฒิธาคาจำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 70,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้คนละ 3 ปี
คดีสาม
ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พ.เกียรติณรงค์ชัย เอ็นจิเนียริ่ง และ นายชูเกียรติ อังสโวทัย ศาลฯ พิพากษาลงโทษ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พ.เกียรติณรงค์ชัย เอ็นจิเนียริ่ง ปรับ 140,000 บาท และลงโทษ นายชูเกียรติ อังสโวทัย จำคุก 4 ปี 8 เดือน และปรับ 140,000 บาท
จำเลยทั้งสอง ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พ.เกียรติณรงค์ชัย เอ็นจิเนียริ่ง ปรับ 70,000 บาท และลงโทษ นายชูเกียรติ อังสโวทัย จำคุก 2 ปี 4 เดือน และปรับ 70,000 บาท สำหรับโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี
ทั้งนี้ ในส่วนคดีความของ นายสุขสันต์ เจตน์ฐากูร ส.อบจ.ชัยภูมิ นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
ส่วนจำเลยในคดีอื่นๆ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบตามความเห็นอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3