สื่อนอกชี้ไม่เกินคาดหมาย หลังศาล รธน.วินิจฉัย 'ประยุทธ์'นั่งนายกฯต่อ

รอยเตอร์ส ชี้ข่าวศาล รธน.วินิจฉัยประยุทธ์เป็นนายกไม่เกิน 8 ปี เป็นการยุติความพยายามครั้งที่ 4 ในการเอานายกออกจากตำแหน่ง ด้านทวิตเตอร์กลุ่มพันธมิตรชานม เผยความเคลื่อนไหวกลุ่มราษฎรควบคู่ความเคลื่อนไหวต่อต้าน รบ.เมียนมา-พรรคคอมนิวนิสต์จีนในไต้หวัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวข้อมูลเกี่ยวกับปฏิกริยาของสื่อต่างประเทศหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำตัดสินให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปโดยนับช่วงเวลาจากที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่  6 เม.ย. 2560 

โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญได้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีทางสะดวกสำหรับการกลับมาจากการถูกแบนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี   โดยรายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญนั้นได้มีคำวินิจฉัยให้การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นยังไม่เกิน 8 ปี ส่งผลทำให้อดีตผู้นำคณะรัฐประหารสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หลังจากที่ถูกระงับจากการดำรงตำแหน่งชั่วคราว

เนื้อหาข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุต่อไปด้วยว่าการคำวินิจฉัยดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นแรกผลักดันครั้งใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นกลุ่มรอยัลลิสต์ และยังเป็นการทำให้ พล.อ.ประยุทธ์รอดพ้นจากความพยายามของสภาผู้แทนราฎรเป็นครั้งที่สี่แล้วที่พยายามจะเอาเขาลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางการประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านความเป็นผู้นำของเขา

ขณะที่สำนักข่าวเอพีระบุว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เนื่องจากที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญมักมีคำตัดสินคดีการเมืองเป็นไปในทางเอื้อต่อรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ​

สำนักข่าวเอพียังระบุด้วยว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ และกองทัพไทย วางบทบาทตนเป็น “ผู้พิทักษ์อย่างเข้มแข็ง” ต่ออำนาจฝ่ายอนุรักษ์นิยมของไทย

เนื้อหาข่าวระบุต่อไปว่าเอกประยุทธ์ยังคงเผชิญความท้าทายทางการเมืองในต้นปีหน้า เนื่องจากรัฐสภาจะมีอายุครบสี่ปีและจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ขณะที่คะแนนความนิยมของเขาอยู่ในระดับต่ำ และพลเอกประยุทธ์ถูกวิจารณ์ว่าบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดและการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างไม่มีประสิทธิภาพพอ

เอพีอธิบายว่า การจำกัดการดำรงตำแหน่งของนายกฯ ไทยให้ไม่เกินแปดปี มีเพื่อพุ่งเป้าไปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สายประชานิยมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และถูกโค่นอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อพ.ศ. 2549 แต่ยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองในไทยจนถึงปัจจุบัน การรัฐประหารครั้งต่อมาในปีพ.ศ. 2557 ยังยึดอำนาจจากรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ เพียงไม่นานหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่งจากการมีส่วนใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการ

ขณะที่ทวิตเตอร์กลุ่มพันธมิตรชานมซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการในภูมิภาคเอเชียก็ได้มีการระบุปฏิทินการประท้วงของกลุ่มราษฎรควบคู่ไปกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา และการประท้วงต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนในไต้หวัน ซึ่งทั้งหมดจะมีกำหนดการตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป (ดูภาพประกอบ)