ราชกิจจานุเบกษา แพร่ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษาในหลวงรัชกาลที่ 10 และเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้าน กรมราชทัณฑ์ เผยผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีขึ้นไป จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.2565 ราชกิจจานุเบกษา แพร่พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ของสวมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พ.ศ.2565
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/A/049/T_0001.PDF
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ระบุว่า เท่าที่ตรวจสอบทราบว่า พระราชกฤษฎีการพระราชทานอภัยโทษในโอกาสสำคัญนี้ได้ เกิดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือมีเกณฑ์เรื่องระยะปลอดภัย ลดอัตราส่วนการอภัยให้ได้น้อยลง ทุกฐานความผิดต้องผ่านเกณฑ์ 1 ใน 3 หรือ 8 ปี ดังนั้นผู้ที่ได้รับไปคราวที่ผ่านมาจะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในคราวนี้อีก นอกจากนั้นยังตัดการให้ได้รับอภัยโทษ สำหรับนักโทษชั้นกลางออก โดยให้ตั้งแต่ชั้นดีขึ้นไป แต่เดิมเมื่อเข้าเรือนจำจะเริ่มต้นเป็นชั้นกลางและได้รับเกณฑ์อภัยโทษเลย
นายสมชาย ระบุด้วยว่า ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ ชุดของนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขหลักเกณฑ์ให้ถูกต้องใหม่ทั้งหมด
ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ครั้งนี้ผู้ต้องราชทัณฑ์จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีหรือชั้นดีมาก หรือชั้นเยี่ยมเท่านั้น และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษตามคำพิพากษา หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดจะเป็นคุณมากกว่า
ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกาฯจะมีทั้งกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ส่วนหนึ่งที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป และกลุ่มที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษจำคุกตามสัดส่วนที่กำหนด โดยแตกต่างกันตามประเภทความร้ายแรงของคดี และตามขั้นของนักโทษเด็ดขาด เช่น นักโทษเด็ดขาดคดีอาญาทั่วไป ชั้นเยี่ยม ได้รับการลดโทษ 1 ใน 4 ชั้นดีมาก ได้รับการลดโทษ 1 ใน 5 และชั้นดี ได้รับการลดโทษ 1 ใน 6 เป็นต้น