30 มิ.ย.สิ้นสุดมาตรการช่วยผู้ประกอบการ คกก.วินิจฉัยฯเตรียมยกเลิกค่าปรับตามสัญญา 0%

คกก.วินิจฉัยฯ แจ้งทุกส่วนราชการ เตรียมยกเลิกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ กำหนดเบี้ยปรับ 0% กรณีไม่ส่งมอบงานงวดสุดท้าย-ไม่ตรวจรับพัสดุ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง มีผล 30 มิ.ย.65 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2565 น.ส.กุลยา ตันเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารราชการพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ทำหนังสือดส่วนที่สุด ถึงทุกส่วนราชการ แจ้งยกเลิกการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ในการกำหนดอัตราค่าปรับ 0% โดยให้มีผลการยกเลิกตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2565

สาระสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการวินิจฉัย ได้มีหนังสือที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 693 ลงวันที่ 6 ส.ค.2564 เรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงโควิด โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 162 กรณีกำหนดอัตราค่าปรับตามสัญญา โดยให้แก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือในส่วนของการกำหนดเงื่อนไขอัตราค่าปรับเป็น 0% กรณีสัญญาที่ยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังมิได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือได้มีการส่งมอบงานแล้ว แต่ยังมิได้มีการตรวจรับพัสดุ เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการ กำหนดให้ต้องดำเนินการแก้ไขสัญญาในส่วนของเงื่อนไขอัตราค่าปรับ 0% จนถึงก่อนวันที่มีการประกาศขยายยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร

ซึ่งปัจจุบันศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปถึงคราวที่ 18 ถึงวันที่ 31 ก.ค.2565 พร้อมรับทราบรายงานสถานการณ์ว่า ภาพรวมของไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยเสียชีวิตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดและต่อเนื่อง และการแพร่ระบาดของโควิดเข้าสู่ระยะ Declining แล้ว การที่ ศบค.ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใด

คณะกรรมการวินิจฉัย พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงโควิด ในการกำหนดอัตราค่าปรับ 0% สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ ดังนี้

1.แก้ไขระยะเวลาตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 693 ลงวันที่ 6 ส.ค.2564

- การสิ้นสุดการนับระยะเวลาการได้อัตราค่าปรับ 0% ตามข้อ 1.1.2 - ข้อ 1.1.6 และข้อ 1.2.1 - ข้อ 1.2.3 จากเดิม ‘จนถึงวันนี้ก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ’ เป็น ‘ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2565’

- สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่จะไม่ได้รับความช่วยเหลือตามข้อ 1.3 จากเดิม ‘สัญญาฯ ที่ได้ลงนามภายหลังวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้ว’ เป็น ‘สัญญาฯ ที่ได้ลงนามหลังวันที่ 30 มิ.ย.2565 แล้ว’

- ให้หน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งคู่สัญญาที่เคยยอมรับการช่วยเหลือและได้แก้ไขสัญญาฯให้เป็นไปตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 693 ลงวันที่ 6 ส.ค.2564 แล้ว ได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงแก้ไขระยะเวลาตามข้อ 1.1 เพื่อแก้ไขสัญญาฯ ให้อัตราค่าปรับเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมในสัญญาก่อนได้รับการช่วยเหลือและให้สอดคล้องกับหนังสือเวียนฉบับนี้ต่อไป

2.สำหรับสัญญาฯ ที่ยังได้รับผลกระทบเรื่องแรงงานในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด หน่วยงานของรัฐสามารถพิจารณางดหรือลดค่าปรับ หรือขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาให้แก่คู่สัญญาได้ ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐด่วนที่สุดที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 423 ลงวันที่ 10 ก.ย.2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือ การขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด