'มหาดไทย'แจ้งยืนยัน‘ดีอีเอส’ยกเลิกระบบ'หมอชนะ'หลัง ศบค.ปรับมาตรการไม่ต้องใช้ติดตาม-ประเมินผู้มีความเสี่ยงโควิดเข้าประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงปลีดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แจ้งเตรียมการยกเลิกการใช้งานระบบหมอชนะ ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงดีอีเอส แจ้งว่า จากการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2565 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.2565 โดยไม่มีการใช้งานระบบหมอชนะ ในการรองรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร
ดังนั้นดีอีเอสในฐานะหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อดำเนินการโครงการบริหารจัดการแพลตฟอร์มเพื่อการติดตามและประเมินผู้มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อโควิดให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และไม่ให้รัฐเสียประโยชน์ จึงจะดำเนินการปิดการให้บริการระบบหมอชนะ ทั้งนี้ ขอสอบถามกระทรวงมหาดไทยว่ามีความประสงค์จะใช้ประโยชน์จากระบบหมอชนะต่อไปหรือไม่อย่างไร นั้น
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า การปรับปรุงการกำหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 44) ลงวันที่ 29 เม.ย.2565 ไม่ได้มีการกำหนดให้ใช้งานระบบหมอชนะในการร่องรับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ประกอบกับที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชัน ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2565 มีความเห็นว่า ปัจจุบันไม่ได้มีการใช้งานระบบหมอชนะในการเดินทางเข้าประเทศตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จึงเห็นควรไม่ใช้งานระบบหมอชนะสำหรับการปรับมาตรการดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความเป็นเอกภาพในการดำเนินการ จึงขอยืนยันแนวทางการดำเนินการตามข้อกำหนด ฉบับที่ 44 และความเห็นของที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชันข้างต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแอปพลิเคชั่นหมอชนะ คือระบบเก็บข้อมูลของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถติดตามและประเมินความเสี่ยงโควิด