ศบค.เผยสถานการณ์โควิดอยู่ในช่วงขาลง แนะสถานศึกษาเปิดเรียนภายใต้มาตรการ Thai stop Covid เร่งฉีดวัคซีนเด็ก ยันไม่บังคับตรวจ ATK
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่าสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อลดลง และพบว่าอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยอาการปานกลาง และผู้ป่วยหนักลดลงอยู่ที่ 20.1% ต่างกับสัปดาห์ก่อนที่รายงานอยู่ที่ 25% งหากดูแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อ อาการหนัก และใส่ท่อช่วยหายใจทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง
พญ.สุมนี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคก่อนเปิดเทอมในช่วงเดือนพ.ค.นี้ โดยขอความร่วมมือสถานศึกษาให้เปิดเรียนแบบออนไซด์ให้ได้มากที่สุด ภายใต้มาตรการ Thai stop Covid 2 Plus ของกรมอนามัย
"สำหรับบางโรงเรียนที่ยังให้นักเรียนตรวจ ATK ก่อนไปเรียนนั้น ไม่ได้เป็นข้อบังคับจากกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใด แต่ควรประเมินอาการตรวจ ATK ก็ต่อเมื่อมีอาการทางเดินหายใจ ถ้าเกิดสงสัยก็ให้ตรวจ ATK ที่บ้าน ถ้าหากผลเป็นบวกก็ให้รักษาที่บ้าน หรือรักษาที่โรงพยาบาล โดยไม่ต้องไปโรงเรียน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์" พญ.สุมนี กล่าว
ส่วนการฉีดวัคซีน ต้องเน้นย้ำการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดทั้งเด็กเล็กและเด็กโต สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากที่สุด สำหรับเด็กเล็กควรไปฉีดวัคซีนให้ครบโดสโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนในเด็กเล็ก 5-11 ปีไปแล้ว กว่า 2.7 ล้านโดส ซึ่งยังไม่พบผลข้างเคียงใดๆ และขอความร่วมมือผู้ปกครองนำเด็กไปฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อนเปิดเทอมด้วย
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า สำหรับการรายงานในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก หลังจากผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในระบบ Thailand Pass ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-4 พ.ค. 65 มีผู้ลงทะเบียน 213,958 ราย อนุมัติแล้ว 202,878 ราย คิดเป็น 94.8% โดยจะตรวจเฉพาะใบรับรองการได้รับวัคซีน และการเช็คกรมธรรม์ประกันชีวิตเท่านั้น โดยจะเป็นการตรวจผ่านระบบ AI ทำให้สามารถอนุมัติได้รวดเร็ว ซึ่งการดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีความล่าช้าแต่อย่างใด