ผู้ว่าฯ ตรัง ตบโต๊ะ! สั่งการนายอำเภอทุกแห่งตรวจสอบบ่อดูดทรายทั้ง 10 อำเภอ เดดไลน์รายงานกลับภายใน 7 วัน พร้อมสั่งการที่ดิน จ.ตรัง ลงรังวัดพิกัดบ่อดูดทรายว่าดำเนินกิจการในพื้นที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังมีการเข้าจับกุมบ่อทรายเถื่อน ซึ่งมีนักการเมืองท้องถิ่น และนายตำรวจเป็นเจ้าของ ขณะที่ ผู้ว่าฯ ยังลั่นกลางที่ประชุมหากบ่อทรายใดลักลอบกระทำผิด ให้บังคับใช้กฎหมายในทันที โดยไม่ต้องตักเตือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรัง เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง และตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้มีการเข้าตรวจค้นบ่อทรายเถื่อน ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึก ระบุว่าเป็นบ่อทรายเป็นของตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่อำเภอห้วยยอด และนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ลักลอบเข้าดูดทรายโดยนำเครื่องจักรกล และเครื่องดูดทรายมาติดตั้งในบริเวณแม่น้ำตรัง พื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.ลำภูรา อ. ห้วยยอด จ.ตรัง จนสามารถจับกุมคนขับรถแบคโฮ จำนวน 1 คน ขณะลักลอบดูดทราย นำมาสู่การที่ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. ยศวริศ ทองสงโสม รอง สว.สอบสวน) สภ.ห้วยยอด กรณีที่มีผู้ลักลอบดูดทรายในแม่น้ำตรังจนทรัพย์สินของแผ่นดินได้รับความเสียหายดังกล่าว
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ 20 เม.ย. 65 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในเรื่องดูดทราย ประกอบด้วย เจ้าท่า จ.ตรัง อุตสาหกรรม จ.ตรัง สนง.ทสจ.ตรัง และ นายอำเภอ เป็นต้น พร้อมสั่งการให้นายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พร้อมด้วยหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้าตรวจสอบบ่อดูดทรายในความรับผิดชอบ พร้อมทั้งรายงานจำนวนบ่อดูดทรายในพื้นที่นั้นๆ ว่ามีจำนวนกี่บ่อ และมีผู้ใดเป็นเจ้าของบ่อทรายนั้นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้ สำนักงานที่ดิน จ.ตรัง ดำเนินการในส่วนของการตรวจสอบ รวมทั้งการทำรังวัด ในเรื่องของพิกัดพื้นที่ในการดูดทราย ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ ที่ 22 เม.ย.นี้ เบื้องต้นทราบว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการในพื้นที่ อ.ปะเหลียน และ อ.ห้วยยอด รวม 2 ราย
ทั้งนี้รายงานจากที่ประชุม ระบุว่า ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ได้มีการสั่งการโดยเด็ดขาดให้ทางอุตสาหกรรม จ.ตรัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบเห็นว่ามีการลักลอบในการกระทำทำผิด สามารถปฏิบัติการตามกฏหมายได้โดยทันที โดยไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอน หรือตักเตือน เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ หากมีการเข้าตักเตือน จะมีการกล่าวอ้างว่าไม่รู้ระเบียบ หรือข้อกฎหมาย พร้อมกันนั้น ยังได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมามีส่วนร่วม รวมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ของอุตสาหกรรม ซึ่งใบอนุญาตบางรายมีเพียงใบอนุญาตโรงงานแต่ไม่มีอนุญาตดูดทราย ทั้งพื้นที่ดูดทรายไต้น้ำ และดูดทรายพื้นที่กรรมสิทธิ์ โดยส่วนใหญ่มีการลักลอบดูดตอนกลางคืน และการลอกเลียนแบบธรรมชาติดูดทรายน้ำลึกเพื่อให้ตลิ่งพังเพื่อดันทรายเข้ามาในพื้นที่สามารถทำธุรกิจได้ยาวนาน
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 