ป.ป.ช.ภาค 6 ชี้มูล นายก อบจ.พิจิตร พร้อมพวก คดีอนุมัติอุดหนุนสมาคมกีฬา จ.พิจิตร 3 ปี 15 ล้าน- ชี้มีส่วนได้ส่วนเสียเหตุนั่งนายกสมาคมฯอีกตำแหน่ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 แถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต โดยเปิดเผยว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ดำเนินการไต่สวน จำนวน 1 เรื่องเป็นการชี้มูลความผิด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร กับพวก รวม 3 คน ทุจริตการจ่ายเงินอุดหนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรให้แก่สมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตรตามโครงการส่งเสริมและพัฒนากีฬาจังหวัดพิจิตร ประจำปี 2553 – 2555
จากกรณีการทุจริตดังกล่าว พบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ดังนี้
ในปีงบประมาณ 2553 - 2555 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร กับพวก ได้พิจารณาเรื่องที่สมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตร ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตรอยู่ด้วยอีกหนึ่งตำแหน่ง ได้มีหนังสือขอรับงบประมาณเงินสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรโดยที่ไม่มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายในโครงการประกอบการพิจารณา และปรากฏว่านายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรได้ใช้อำนาจในตำแหน่งอนุมัติเบิกจ่ายเงินตามโครงการดังกล่าวให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตรที่ตนเองมีส่วนได้เสีย ทั้งที่ไม่มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายในโครงการประกอบการพิจารณา จากนั้นสมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตรได้นำเงินไปจ่ายให้กับทีมสโมสรฟุตบอล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทีม และเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกีฬาอื่น รวมสามปีงบประมาณ เป็นเงินทั้งสิ้น 15,654,115.12 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้
พฤติการณ์ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 44/3 (3) และมาตรา 79
ส่วนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรที่เกี่ยวข้อง มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 151 มาตรา 152 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 123/1 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ประกาศเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง
อนึ่งการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุดผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด