ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 24,554 ราย อาการหนัก 1,255 ราย สะสม 3.13 ล้าน ส่วน ATK เป็นบวก 21,626 ราย ทำให้ยอดรวมวันนี้อยู่ที่ 46,180 ราย ขณะที่หายกลับบ้าน 22,065 ราย ส่วนเสียชีวิต 63 ราย คงเป็นกลุ่ม 608 ถึง 95%
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 24,792 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 24,554 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 24,308 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 246 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 158 ราย อีก 80 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,136,649 ราย
ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้อยู่ที่ 21,626 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 46,180 ราย
หายป่วยเพิ่ม 22,065 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 222,998 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,255 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 415 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 63 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23,575 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต 63 ราย มาจาก กทม. 7 ราย ปริมณฑล 7 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 ราย ภาคเหนือ 7 ราย ภาคใต้ 26 ราย และภาคกลาง 10 ราย แบ่งเป็นชาย 37 ราย หญิง 26 ราย อายุระหว่าง 28-93 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 95% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 49 ราย คิดเป็น 78% ป่วยเรื้อรัง 11 ราย คิดเป็น 17% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 5% สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ มีโรคประจำตัว โดยติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว อยู่ในพื้นที่ระบาด และเรือนจำ
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,171 ราย ชลบุรี 1,386 ราย นครศรีธรรมราช 1,324 ราย นนทบุรี 971 ราย สมุทรสาคร 829 ราย สมุทรปราการ 813 ราย ปทุมธานี 645 ราย พระนครศรีอยุธยา 617 ราย นครราชสีมา 532 ราย และนครปฐม 519 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 85,859 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 21,760 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 110,641 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 125,589,061 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 54,187,319 ราย คิดเป็น 77.9% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,936,840 ราย คิดเป็น 71.8% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 21,464,902 ราย คิดเป็น 30.9%
เดินทางเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 80 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 80 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 50 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 11 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 16 ราย และลักลอบ 3 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน มี.ค. สะสมรวม 838 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 543 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 266 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 29 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.79 ล. รวมสะสม 453.63 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,790,583 ราย รวม 453,639,251 ราย อาการหนัก 67,472 ราย หายป่วย 387,593,049 ราย เสียชีวิต 6,051,079 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,848,162 ราย สะสม 5,822,626 ราย เยอรมนี พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,261,098 ราย สะสม 16,636,606 ราย เวียดนาม พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,068,883 ราย สะสม 5,260,495 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 19 ของโลก
โควิดไทยวันนี้ ติดเชื้อใหม่ 24,792 เสียชีวิต 64 ราย ไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 40 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 08.24 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 24,792 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 24,712 ราย อีก 80 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 913,214 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 22,065 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 721,582 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 222,998 ราย
ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 63 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและป่วยเรื้อรัง (608) 60 ราย คิดเป็น 95% เป็นโรคไตระยะสุดท้าย 9 ราย เป็นมะเร็ง 3 ราย เป็นผู้ป่วยติดเตียง 9 ราย ส่วนไม่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 40 ราย และได้รับวัคซีนสองเข็มแล้ว 23 ราย
โดยมีอาการติดเชื้อในปอดชัดเจน 47 ราย ไม่มีอาการติดเชื้อในปอด 12 ราย และที่เหลือข้อมูลไม่ชัดเจน