1 มี.ค. สธ.เพิ่มการรักษาผู้ป่วยโควิดอาการน้อย แบบผู้ป่วยนอก (OPD) เน้นรักษาตัวที่บ้าน รับยาไปกิน แต่ยังต้องแยกกักตัว ห้ามออกไปข้างนอก 7 วัน เผยต่างจาก HI ตรงที่ไม่มีอุปกรณ์-ไม่มีอาหาร-ไม่จำเป็นต้องให้ยาฟาวิพิราเวียร์-แพทย์โทรหาครั้งเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในวันที่ 1 มี.ค. 2565 ได้เพิ่มการรักษาผู้ป่วยโควิดให้เป็นผู้ป่วยนอก หรือ OPD ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจ รองรับผู้ป่วยไม่มีอาการ อาการน้อย ไม่มีความเสี่ยง เป็นมาตรการเสริมจากการดูแลที่บ้าน (Home Isolation : HI) หรือในชุมชน (Community Isolation : CI)
โดยความแตกต่างผู้ป่วยนอกกับ HI คือ ผู้ป่วยนอกจะมีแพทย์ติดตามอาการหลังตรวจคัดกรองภายใน 48 ชั่วโมง แต่หากมีอาการเปลี่ยนแปลง ประชาชนสามารถติดต่อกลับได้ทุกเวลา ไม่มีอุปกรณ์ตรวจประเมิน เช่น ปรอทวัดไข้และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วและไม่มีอาหาร หลังดำเนินการจะมีการประเมินระบบเป็นระยะ ซึ่งจะไม่มีแพทย์ติดต่อทุกวันเหมือนกับ HI ต้องยอมรับว่าผู้ติดเชื้อมากขึ้น ต้องใช้ทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพที่สุด และด้วยการประเมินเบื้องต้นแล้วไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ตามหลักการแล้วก็จะไม่มีความเสี่ยง
ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เห็นชอบระบบคัดกรองเพื่อเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่น ด้วยการเอาระบบ OPD มาเสริม หากมีอาการทางเดินหายใจ เป็นคนเสี่ยงสูง เข้าข่ายติดเชื้อให้ตรวจ ATK ที่บ้าน หากเป็นลบให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT แต่หากเป็นบวก สามารถทำได้ 2 ทาง คือ ติดต่อสายด่วน 1330 ที่จะประเมินความเสี่ยง และอีกทางให้ติดต่อคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ของสถานพยาบาลนั้นๆ เพื่อประเมินความเสี่ยง กรณีผู้ติดเชื้อกลุ่ม 608 แพทย์ดูแลอาจใช้การเข้ารักษา แต่หากไม่มากให้ใช้ HI/CI/Hospitel
ส่วนจำนวนเตียงโรงพยาบาลขณะนี้ยังเพียงพอ แต่หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น ได้มีหนังสือแจ้งไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายให้เตรียมพร้อมลดเตียงผู้ป่วย Non-Covid มารองรับผู้ป่วยโควิด 15-20%
“กรณีข้อกังวลว่าการรักษาในระบบผู้ป่วยนอก จะสามารถเคลมประกันได้หรือไม่ ได้พูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง คปภ.ต้องไปดำเนินการต่อ แต่หลักๆ ต้องดูว่าประกันของผู้ป่วยครอบคลุมกรณีเป็นผู้ป่วยนอกหรือไม่ หากไม่ครอบคลุมก็ให้เข้าสู่ระบบ HI เพราะ HI มีการประกาศเป็นทางการว่าเป็นผู้ป่วยใน สามารถประเมินเป็นรายๆ ได้” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
แนวทางรักษาโควิดใหม่
ด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการพิจารณาจัดทำแนวทางการรักษาโรคโควิด ฉบับที่ 20 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด จะมีแนวทางสำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อแบบผู้ป่วยนอก สำหรับรายละเอียด การให้ยา ดังนี้
-
ผู้ป่วยไม่มีอาการพบกว่า 90% ให้มีการรักษาที่บ้าน หรือแบบผู้ป่วยนอก อาจจะมีอาการคันคอ ไอบ้าง จะไม่มีการให้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ เนื่องจากส่วนมากอาการไม่แย่ลง หายเองได้ และไม่ต้องเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ตาสีฟ้า เสี่ยงดื้อยา และ ไม่แนะนำใช้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะตั้งครรภ์อ่อนๆ เพราะพบว่ามีผลต่อตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง แต่อาจจะพิจารณาให้ฟ้าทะลายโจรตามดุลพินิจแพทย์ แต่ไม่ให้ในเด็ก คนท้อง ผู้ป่วยโรคตับ ไม่ใช้ร่วมยาต้านไวรัสอื่น
-
กรณีมีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ไม่มีโรคร่วม แพทย์เป็นคนพิจารณาว่าจะให้ฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ หากให้ต้องหยุดกินฟ้าทะลายโจร หากตรวจพบเชื้อเมื่อมีอาการเกิน 5 วันแล้ว และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย การให้ยาต้านอาจจะไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะผู้ป่วยจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน
-
กรณีมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง เช่น มีไข้ 38-39 อายุ 65 ปีขึ้นหรือมีโรคร่วมสำคัญหรือผู้ป่วยที่ทมีปอดอักเสบเล็กน้อยที่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน แพทย์พิจารณาให้เข้ารับการนอนในโรงพยาบาล เพราะเสี่ยงที่โรคจะพัฒนารุนแรงขึ้น ส่วนยาที่ใช้จะมีหลายตัว
-
กรณีอาการรุนแรง ต้องอยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว แพทย์จะพิจารณาการรักษาที่เหมาะสม
“ห้ามเด็ดขาดที่จะบอกว่าการรักษาแบบผู้ป่วยนอกเป็นการรักษาไปกลับ ซึ่งไม่ใช่ เพราะคำว่าไปกลับหมายความว่าสามารถออกไปข้างนอกได้ แต่การรักษาแบบ OPD โควิดนี้ให้อยู่ที่บ้านกักตัว 7 วันเป็นอย่างน้อย ระหว่าง 7 วันนี้ต้องติดต่อกับทางการแพทย์ เพื่อให้รู้ว่าท่านอยู่จุดไหน ซึ่งส่วนใหญ่ โรคจะค่อยๆ หายเอง ดังนั้นการรักษาด้วยยาให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา” นพ.ทวี กล่าว
เตรียมส่งฟ้าทะลายโจรกระจายทั่วไทย 7 แสนรายใน 5 มี.ค.
ด้าน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมมีแผนการจัดส่งยาฟ้าทะลายโจร จำนวน 700,000 ราย โดยจัดส่งไปตามเขตสุขภาพ ปัจจุบันมีการจัดส่งไปแล้วกว่า 500,000 ราย ทั้งนี้ภายในวันที่ 5 มี.ค. จะส่งยาฟ้าทะลายโจรสนับสนุนผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเล็กน้อยครบ 77 จังหวัด
ยืนยันว่ายาฟ้าทะลายโจรสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดที่มีอาการไม่มาก ให้มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าผู้ที่ไม่ได้รับยา สำหรับการดูแลผู้ป่วยภาวะ Long Covid กรมฯ ได้เตรียมให้ความรู้แก่แพทย์แผนไทยในจังหวัดต่างๆ แล้ว
ในขณะเดียวกัน มีแผนการดำเนินการวิจัยต่อเนื่องร่วมกับกรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์ฯ เรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดฟ้าทะลายโจร เทียบกับการรักษามาตรฐานในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบในผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และการทดลองแบบสุ่มเปรียบเทียบประสิทธิภาพการรักษาโรคโควิดด้วยยา Fluvoxamine, Bromhexine, Cyproheptadine, Nicosamide และฟ้าทะลายโจร ในการช่วยลดระยะเวลาฟื้นตัว