กทม.ยังติดเชื้อสูงสุด 2,920 เสียชีวิตมากถึง 10 ราย-จับตาอีก 3 จว.ป่วยใหม่ลามต่อเนื่อง

ศบค.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,882 ตาย 24 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ-ป่วยเรื้อรัง ขณะที่ยอดติดเชื้อ กทม.ยังนำ 2,920 ราย มีสัดส่วนผู้เสียชีวิตมากถึง 10 ราย จับตาสมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุป่วยใหม่ลามต่อเนื่อง พุ่งสูงเกิน 500 คน ด้านผู้เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 200 สะสม 2.17 พัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 15,882 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 15,595 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 15,462 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 133 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 87 ราย อีก 200 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,597,327 ราย

หายป่วยเพิ่ม 9,482 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 124,869 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 641 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 126 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย เป็นผู้สูงอายุ 21 ราย คิดเป็น 88% ป่วยเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็น 4% รวม 92% เสียชีวิตสะสม 22,436 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 24 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 10 ราย นครปฐม 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย นครราชสีมา 1 ราย เลย 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย อุดรธานี 1 ราย อุบลราชธานี 1 ราย ภูเก็ต 2 ราย นครศรีธรรมราช 1 ราย ชลบุรี 2 ราย นครนายก 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด

โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,920 ราย สมุทรปราการ 948 ราย นนทบุรี 826 ราย ชลบุรี 714 ราย ภูเก็ต 462 ราย นครปฐม 394 ราย นครราชสีมา 384 ราย ราชบุรี 376 รายนครศรีธรรมราช 375 ราย และปทุมธานี 338 ราย

ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 45,597 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 37,279 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 187,564 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 119,733,753 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 52,774,125 ราย คิดเป็น 75.9% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,217,402 ราย คิดเป็น 70.8% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 17,742,226 ราย คิดเป็น 25.5%

เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 200 สะสม 2.17 พันราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 200 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 64 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 129 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 5 ราย

ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 2,175 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 265 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 1,754 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 156 ราย ทั้งหมดนี้คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 3.05%

ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.85 ล. รวมสะสม 410.67 ล้านราย

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,852,263 ราย รวม 410,674,556 ราย อาการหนัก 87,556 ราย หายป่วย 330,783,253 ราย เสียชีวิต 5,828,531 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 59,579 ราย รวม 79,293,924 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 873 ราย รวม 942,944 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 28,366 ราย รวม 42,614,910 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 257 ราย รวม 508,269 ราย บราซิล พบเพิ่ม 134,228 ราย รวม 27,425,743 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 892 ราย รวม 638,124 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก

ไทยป่วยเพิ่ม 15,882 หาย 9,482 ตาย 24 อยู่ระหว่างรักษา 124,896 ราย

อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.26 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,397 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 6,232 และมาจากต่างประเทศ 165 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 114,376 ราย

ผู้ติดเชื้อแบ่งออกตามรายพื้นที่ แบ่งเป็น พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 2,292 ราย พื้นที่ 18 จังหวัด (นำร่องท่องเที่ยว) 2,094 ราย และจังหวัดอื่น 1,836 ราย

ขณะที่มีผู้หายป่วย 6,637 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 65,409 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 81,952 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 534 ราย ต้องท่อช่วยหายใจ 114 ราย และมีผู้เสียชีวิต 18 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 258 ราย