ป่วยโควิดเพิ่ม 7,798 ราย อาการหนัก 527 ราย สะสม 2.3 ล้านราย ตาย 18 ราย ส่วนนักท่องเที่ยวเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 270 ราย กทม.ติดเชื้อใหม่ 777 ราย พุ่งกลับอับดับ 1 ตามด้วยสมุทรปราการ 681 ราย อับดับ 3 ชลบุรี 525 ราย ขณะที่ฉีดวัคซีนแล้ว 108.91 ล้านโดส
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2565 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 7,793 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 7,501 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 7,459 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 42 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 22 ราย อีก 270 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,316,408 ราย
หายป่วยเพิ่ม 5,202 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 77,368 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 527 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 105 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 21,916 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 18 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 2 ราย ปริมณฑล 1 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ราย ภาคเหนือ 3 ราย ภาคใต้ 5 ราย และภาคกลาง 5 ราย แบ่งเป็นชาย 11 ราย หญิง 7 ราย อายุระหว่าง 44-92 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 777 ราย สมุทรปราการ 681 ราย ชลบุรี 525 ราย ภูเก็ต 420 ราย นนทบุรี 419 ราย อุบลราชธานี 269 ราย ปทุมธานี 239 ราย นครศรีธรรมราช 194 ราย เชียงใหม่ 179 ราย และขอนแก่น 177 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 56,398 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 144,824 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 401,265 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 108,916,435 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 51,751,305 ราย คิดเป็น 71.8% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 47,445,961 ราย คิดเป็น 65.9% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 9,719,169 ราย คิดเป็น 13.5%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 270 สะสม 3.9 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 270 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 117 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 108 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 45 ราย และลักลอบ 1 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ม.ค. สะสมรวม 3,962 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 2,088 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 1,304 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 300 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3.17 ล. รวมสะสม 324.23 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3,170,242 ราย รวม 324,233,702 ราย อาการหนัก 96,194 ราย หายป่วย 265,315,946 ราย เสียชีวิต 5,547,126 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 805,620 ราย รวม 66,162,759 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,140 ราย รวม 871,597 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 267,345 ราย รวม 36,849,474 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 430 ราย รวม 485,780 ราย บราซิล พบเพิ่ม 111,376 ราย รวม 22,927,203 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 238 ราย รวม 620,847 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก
ไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 7,793 ตายเพิ่ม 18 ราย เป็นผู้สูงอายุ-มีโรคประจำตัว 87%
อนึ่งเมื่อเวลา 08.33 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 7,793 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 7,523 ราย ในเรือนจำ 22 ราย อีก 270 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 92,973 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 5,202 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 48,530 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 77,368 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 527 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 105 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว 15 ราย คิดเป็ฯ 87%
เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเต็มพื้นที่ 2,654 ราย จากพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 2,276 ราย และจังหวัดอื่นๆ 2,571 ราย