'สหรัฐฯ'เผยผลวิจัย เซลล์ปอดคาดมีส่วนป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอน-ด้าน 'ไฟเซอร์'เผยวัคซีนเจาะจงสายพันธุ์เปิดตัวในเดือน มี.ค. นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19หรือโคโรน่าไวรัสว่า ที่วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน (รัฐวอชิงตัน) ได้มีการวิจัยพบว่าเซล์ในปอดนั้นอาจจะมีส่วนช่วยในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในการแพร่เชื้อ
ทั้งนี้ในผลการทดลองได้มีการเปรียบเทียบระหว่างไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและไวรัสโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ระบาดในรัฐวอชิงตันเมื่อต้นปี 2563 พบว่าไวรัสโควิดสายพันธ์ดั้งเดิมมีการระบาดอย่างทำลายล้างในเนื้อเยื่อปอดมากกว่าโควิดสายพันธ์โอไมครอนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญทำให้ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นมีความรุนแรงน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลจากการทดลองบนจานเพาะเลี้ยง (ดูภาพประกอบ)
“ถ้านี่คือปอดของคุณ หมายความว่ามันแสดงให้เห็นว่าปอดนั้นได้รับความปลอดภัยจากไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน” นพ.ไมเคิล เกล หัวหน้าศูนย์ภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติและโรคภูมิคุ้มกันกล่าว
นพ.เกลกล่าวว่าผลการทดลองกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้านั้นก็มีลักษณะคล้ายแบบนี้เช่นกัน โดยเขาชี้ไปที่จานทดลองที่มีจุดสีขาวเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลทดลองว่าปอดนั้นสามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ แต่เซลล์ในจมูกนั้นกลับไม่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์นี้ได้ดีเท่า ทำให้คาดกันว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไวรัสสายพันธุ์นี้นั้นสามารถแพร่กระจายได้ดีขึ้น เนื่องจากว่ากิจกรรมของไวรัสสายพันธุ์นี้โดยมากแล้วจะอยู่ที่บริเวณศรีษะ
นายเกลกล่าวต่อไปว่าห้องทดลองของเขานั้นได้มีการรวบรวมตัวอย่างข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรัฐวอชิงตันมาและเปรียบเทียบกับกรณีการติดเชื้อโอไมครอนทั้งในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯและในประเทศแอฟริกาใต้ ก็พบว่าความแตกต่างนั้นมีน้อยมาก แต่ 1-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ขณะที่สถานการณ์อื่นๆนั้นมีรายงานว่า นายอัลเบิร์ต โบวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ออกแบบใหม่ของบริษัท ซึ่งเจาะจงโดยเฉพาะกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์โอไมครอนนั้นคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือน มี.ค.
ประธานบริษัทไฟเซอร์ระบุต่อว่า วัคซีน 2 เข็มที่มีอยู่ในปัจจุบันและเข็มกระตุ้น มอบประสิทธิภาพการป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อการป่วยจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน แต่วัคซีนที่พุ่งเป้าโดยตรงไปที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน จะช่วยป้องกันเคสติดเชื้อหลังฉีดวัคซีน ของตัวกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากๆ แต่ยังคงก่อเคสติดเชื้ออาการเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการ
ขณะที่นายสเตฟาน แบนเซล ประธานฝ่ายบริหารของบริษัทโมเดอร์นา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเช่นกัน แยกกันว่า บริษัทของเขากำลังพัฒนาเข็มกระตุ้นที่อาจจัดการกับตัวกลายพันธุ์โอไมครอนและสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่อื่นๆ โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (23 ก.ย.) 2565