'สหรัฐฯ'เผยผลวิจัย mRNA สามโดสป้องกันโอไมครอนได้ ดีกว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน+ mRNA ชี้มีภูมิคุ้มกันที่หลากหลายกว่า-นักวิจัยเชื่อวัคซีนบูสเตอร์สามารถเล็งโปรตีนหนามของไวรัสได้ทั่วถึงขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เพื่อรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ด้วยชนิด mRNA นั้นจะเป็นวัคซีนประเทศที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่อันมีศักยภาพในการระบาดสูงนี้
โดยวารสารทางการแพทย์ชื่อว่า Cell ได้รายงานว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนสองโดสทั้งยี่ห้อโมเดอร์นา และยี่ห้อไฟเซอร์ และพอได้รับวัคซีนบูสเตอร์ในโดสสามนั้นจะได้รับการ้องกันอันมีศักยภาพกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
ขณะที่เหล่าบรรดานักวิจัยจากที่สถาบันรากอนที่โรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ MIT และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ค้นพบว่าการฉีดวัคซีนจำนวนสองโดสแม้จะไม่สร้างภูมิในการป้องกันการติดเชื้อ แต่ผู้ที่ติดเชื้อแบบก้าวหน้านั้นก็ไม่ได้มีอาการป่วยที่รุนแรงแต่อย่างใด เนื่องจากผลของการฉีดวัคซีนในเบื้องต้น
ทั้งนี้ในกระบวนการทดลองนักวิจัยได้สร้างไวรัสโอไมครอนในเวอร์ชั่นที่ไม่อันตราย หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าไวรัสหลอกขึ้นมา และจากผลการเก็บตัวอย่างเลือดของกลุ่มทดลองจากผู้ที่ฉีดวัคซีนจำนวน 239 ราย เพื่อจะวัดผลเกี่ยวกับวัคซีนเพื่อผลิตแอนติบอดีหรือสารภูมิคุ้มกันนต่อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์เดลต้า และสายพันธุ์ดั้งเดิม ก็พบว่าวัคซีนแบบ mRNA สองโดสตามด้วยวัคซีนแบบ mRNA อีกหนึ่งโดสนั้นให้ภูมิคุ้มกันในเรื่องของแอนติบอดีสูงที่สุด
ในรายงานได้ระบุต่อไปด้วยว่าการติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหลังจากฉีดวัคซีนแทนที่จะได้รับบูสเตอร์นั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่ามีประสิทธิภาพเลยแม้แต่น้อย ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้นสร้างแอนติบอดีสูงกว่าการติดเชื้อเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนกรณีวัคซีนยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หลังจากที่พบข้อมูลก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ด้วยยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หลังจากที่ฉีดวัคซีนยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นโดสแรกนั้นจะสามารถป้องกันการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล คิดเป็นอัตรา 64-84 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 6 เดือน
ทางด้านของวารสาร Cell ก็ได้มีกรไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกันและพบว่าถ้าหากฉีดวัคซีนบูสเตอร์ด้วยวัคซีนชนิด mRNA เป็นโดสที่สอง ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสันโดสเดียวอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามภูมิคุ้มกันที่ได้รับนั้นก็ยังไม่มีการตอบสนองที่หลากหลายเท่ากับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแบบ mRNA เป็นจำนวนสามโดส
อนึ่งผลการวิจัยดังกล่าวนั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์นั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้เป็นอย่างมาก เพราะทำให้แอนติบอดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยช่วยทำให้แอนติบอดีมีลักษณะผูกกับโปรตีนหนามบนผิวเซลล์ได้มากขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่ นพ.วิลเฟรโด เอฟ การ์เซีย-เบลทราน นักวิจัยจากสถาบันรากอนกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ด้วยว่าการฉีดวัคซีนยูสเตอร์นั้นอาจจะทำให้แอนติบอดีสามารถเล็งเป้าหมายเฉพาะเจาะจงไปยังตัวโปรตีนหนามซึ่งมีลักษณะทั่วไปสำหรับไวรัสโควิด-19 ในทุกชนิดได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงจาก:https://www.usatoday.com/story/news/health/2022/01/07/covid-boosters-pfizer-moderna-omicron/9123578002/