ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 2,532 ตาย 31 กว่าครึ่งยังไม่ฉีดวัคซีน นทท.ติดเชื้อใหม่ 39 ราย

ป่วยโควิดใหม่ 2,532 ราย อาการหนัก 845 ราย รวมสะสม 2.19 ล้านราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK เป็นบวก 788 ราย ตายเพิ่ม 32 ราย โดยหว่าครึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนนักท่องเที่ยวเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 39 ราย

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 2,532 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 2,491 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 2,393 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 50 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 48 ราย อีก 41 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,199,061 ราย 

อย่างไรก็ตาม หากรวมยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ผล ATK เป็นบวก 788 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมีถึง 3,320 ราย

หายป่วยเพิ่ม 3,191 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 38,202 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 845 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 231 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 21,471 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 31 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 3 ราย ปริมณฑล 2 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ราย ภาคเหนือ 6 ราย ภาคใต้ 11 ราย และภาคกลาง 6 ราย แบ่งเป็นชาย 18 ราย หญิง 13 ราย อายุระหว่าง 38-97 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้เสียชีวิต 20 ราย ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คิดเป็น 65% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด

โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 421 ราย ชลบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 128 ราย นครศรีธรรมราช 71 ราย ขอนแก่น 70 ราย ตาก 70 ราย นครสวรรค์ 68 ราย ปัตตานี 67 ราย กระบี่ 58 ราย และแม่ฮ่องสอน 58 ราย

ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 41 ราย แบ่งเป็น ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย เดนมาร์ก 3 ราย ฝรั่งเศส 6 ราย เนเธอแลนด์ 1 ราย สหรัฐอเมริกา 10 ราย สหราชอาณาจักร 5 ราย กาตาร์ 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย รัสเซีย 2 ราย เยอรมนี 2 ราย นอร์เวย์ 3 ราย สวีเดน 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย แคนาดา 1 ราย โปแลนด์ 1 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย และลาว 1 ราย

ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 81,746 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 166,334 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 195,957 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 100,615,878 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 50,685,890 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 44,653,467 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 5,276,521 ราย

นักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อ 39 สะสม 416 ราย

ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ 10,759 ราย รวมสะสม 182,578 ราย จำแนกเป็น Test and Go 156,807 ราย Sandbox 21,646 ราย กักตัว 7 วัน 898 ราย กักตัว 10 วัน 2,816 ราย และกักตัว 14 วัน 411 ราย ติดเชื้อใหม่ 39 ราย รวมสะสม 416 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.23%

สำหรับ 10 ประเทศต้นทางเดินทางเข้าไทยสูงสุด ตั้งแค่วันที่ 1-20 ธ.ค. ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สวีเดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ นอร์เวย์ และอิสราเอล

ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 745,639 รวมสะสม 276.58 ล้านราย

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 745,639 ราย รวม 276,589,282 ราย อาการหนัก 89,141 ราย หายป่วย 248,028,175 ราย เสียชีวิต 5,385,004 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 181,264 ราย รวม 52,253,848 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,811 ราย รวม 830,990 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 5,914 ราย รวม 34,758,078 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย รวม 478,061 ราย บราซิล พบเพิ่ม 3,621 ราย รวม 22,219,477 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย รวม 617,991 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก

ตายเพิ่ม 31 ราย! โควิดไทยติดเชื้อใหม่ 2,532 มาจาก ตปท. 41 - หายป่วย 3,191

อนึ่งเมื่อเวลา 08.29 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทย ประจำวันที่ 22 ธันวาคม  2564 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,532  ราย

ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,170,198 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 31 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 21,377 รายแล้ว

ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,532  ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 41 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,393 ราย มาจากระบบคัดกรองเชิงรุก 50 ราย เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ 48 รายเป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 653  ราย  ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 172 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่น ๆ 1,618 ราย

ส่วนการรักษา มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม  3,191 ราย  ยอดหายป่วยสะสม 2,111,962  ราย อยู่ระหว่างการรักษา 38,202 ราย มีผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบ 845 ราย 231 ราย