'บ.ยามาเลเซีย' อ้างวัคซีนซิโนแวค 3 โดสรับมือโอไมครอนได้ 94 เปอร์เซ็นต์ ชี้ผลการทดลองที่ฮ่องกงเป็นเครื่องพิสูจน์ ยันหลังวัคซีนโดส 3 ผ่านไป 6 เดือนประสิทธิภาพสูงกว่าโดส 2
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์การระบาดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่า ทางบริษัทฟาร์มาเนียกาหรือ Pharmaniaga Bhd ซึ่งเป็นบริษัทยาของประเทศมาเลเซียได้อ้างถึงผลการวิจัยเบื้องต้นว่าการใช้วัคซีนจากบริษัทซิโนแวคเป็นเข็มบูสเตอร์หรือว่าวัคซีนเข็มสามนั้นแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพต่อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึง 94 เปอร์เซ็นต์
โดยข้อมูลดังกล่าวนั้นมาจากการศึกษาของบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่สองสายพันธุ์ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งผลการทดลองในห้องแล็บแสดงให้เห็นถึงผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนของบริษัทซิโนแวคจำนวน 2 โดสนั้นจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ที่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 20 คน ที่พบว่ามี 7 คนที่มีสารภูมิคุ้มกันหรือว่าแอนติบอดีที่เป็นกลางไม่ติดเขื้อโควิด ส่วนในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนจำนวน 3 โดส พบว่ามีภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 94 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 48 0 คน ที่พบว่ามี 45 คนไม่ติดเชื้อโควิด
อนึ่งการทดสอบดังกล่าวนั้นยังคงดำเนินการอยู่ ขณะที่บริษัทฟาร์มาเนียกากล่าวว่าบริษัทซิโนแวคได้ดำเนินการทดสอบลงลึกไปอีกในประเด็นเกี่ยวกับระดับของแอนติบอดีที่แตกต่างกันออกไปและในหลากหลายช่วงเวลาหลังจากที่มีการสร้างภูมิเกิดขึ้น
บริษัทได้ระบุต่อไปด้วยว่าผลการทดลองดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่สนับสนุนแถลงการณ์ของบริษัทซิโนแวคก่อนหน้านี้ ซึ่งทางด้านของนายเหว่ยหมิงเหม่ง ผู้อำนวยการด้านธุรกิจต่างประเทศของบริษัทซิโนแวคได้เคยกล่าวว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ในช่วงเวลา 6-12 เดือน หลังจากวัคซีนโดสที่ 2 นั้นจะเสริมสร้างการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในระดับ 140 จุด
บริษัทอ้างคำพูดของนายเหม่งต่อไปด้วยว่าเมื่อถึงระยะเวลา 6 เดือนหลังจากการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 นั้น จะพบว่ามีค่าระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า 6 เดือนหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 มาก
“ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษายังแสดงให้เห็นถึงการคงอยู่ของแอนติบอดีที่สูงขึ้น ในช่วง 6 เดือนหลังจากการฉีดบูสเตอร์โดส เปรียบเทียบกับวัคซีนโดสที่ 2 อันเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีช่วงเวลาของภูมิคุ้มกันจากไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนานขึ้นและสามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆได้” นายเหม่งกล่าว
บริษัทฟาร์มาเนียกากล่าวต่อไปด้วยว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ยังสอดคล้องกับแถลงการณ์ของนายคาอีรี จามาลุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียที่กล่าวในวันที่ 17 ธ.ค.ว่าจะให้ผู้ใหญ่ทั้งหมดที่รับวัคซีนซิโนแวค และผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ไม่ว่าจะรับวัคซีนอะไรนั้นจะได้รับวัคซีนบูสเตอร์ในช่วงก่อนสิ้นเดือน ก.พ. 2565
เรียบเรียงจาก:https://www.theedgemarkets.com/article/pharmaniaga-sinovac-booster-shots-94-effective-against-omicron