ป่วยโควิดใหม่ 3,370 ราย อาการหนัก 1,018 ราย รวมสะสม 2.17 ล้านราย ตาย 29 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 และอีก 21 ยังไม่เคยฉีดวัคซีน ขณะที่นักท่องเที่ยวเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 18 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 3,370 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 3,239 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 3,161 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 78 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 111 ราย อีก 20 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,178,276 ราย
หายป่วยเพิ่ม 4,557 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 46,315 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,018 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 277 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 21,260 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 29 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 3 ราย ปริมณฑล 1 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ราย ภาคเหนือ 3 ราย ภาคใต้ 12 ราย และภาคกลาง 6 ราย แบ่งเป็นชาย 6 ราย หญิง 23 ราย อายุระหว่าง 23-93 ปี เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
"สำหรับผู้เสียชีวิตในจำนวน 29 คนนี้ มีมากถึง 21 คน ที่ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ วัย 43 ปี มีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน และยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ากลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการฉีดวัคซีนน้อยสุด หากติดเชื้อมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิตพร้อมลูกน้อยในครรภ์ จึงขอให้สามีและญาติพี่น้องชักชวนให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีน" พญ.สุมนี กล่าว
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 583 ราย ชลบุรี 172 ราย นครศรีธรรมราช 150 ราย สมุทรปราการ 140 ราย สงขลา 135 ราย ปัตตานี 117 ราย สุราษฎร์ธานี 97 ราย เชียงใหม่ 89 ราย ปราจีนบุรี 76 ราย และตรัง 71 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 20 ราย แบ่งเป็น กัมพูชา 2 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย เอธิโอเปีย 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย ฝรังเศส 2 ราย ฟินแลนด์ 1 ราย เยอรมนี 1 ราย นอร์เวย์ 2 ราย เบลเยี่ยม 1 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย ออสเตรเลีย 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 114,675 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 181,505 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 96,936 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 98,046,970 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 50,095,106 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 43,643,486 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 4,308,378 ราย
นักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อ 18 สะสม 189 ราย
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ 7,858 ราย รวมสะสม 103,263 ราย จำแนกเป็น Test and Go 88,985 ราย Sandbox 11,542 ราย กักตัว 7 วัน 506 ราย กักตัว 10 วัน 1,996 ราย และกักตัว 14 วัน 234 ราย ติดเชื้อใหม่ 18 ราย รวมสะสม 189 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.18%
สำหรับ 10 ประเทศต้นทางเดินทางเข้าไทยสูงสุด ตั้งแค่วันที่ 1-14 ธ.ค. ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สวีเดน สิงคโปร์ อิสราเอล และเกาหลีใต้
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 608,382 รวมสะสม 271.72 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 608,382 ราย รวม 271,725,553 ราย อาการหนัก 89,426 ราย หายป่วย 244,231,704 ราย เสียชีวิต 5,336,773 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 108,566 ราย รวม 51,136,442 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,598 ราย รวม 821,335 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 6,986 ราย รวม 34,710,630 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 0 ราย รวม 475,888 ราย บราซิล พบเพิ่ม 3,826 ราย รวม 22,195,775 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 141 ราย รวม 617,121 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
ตายอีก 29 คน! โควิดไทยล่าสุด ติดเชื้อใหม่ 3,370 - หายป่วยเพิ่ม 4,557
อนึ่งเมื่อเวลา 07.32 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทย ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย
ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,149,413 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 20 ราย ติดเชื้อในประเทศ 3,350 ราย
เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ111 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 847 ราย ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 330 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่น ๆ 2,062 ราย
ส่วนการรักษามีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 4,557 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,083,275 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 46,315 ราย
มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,166 ราย