'ป.ป.ช.' แจง ปม ทรงชัย นกขมิ้น อดีตนายก อบต.ราชาเทวะ ลงเลือกตั้งท้องถิ่นใหม่ หลังถูกชี้มูลคดีจัดซื้อรถดับเพลิง รับมีช่วงคาบเกี่ยวลาออกจากตำแหน่งไปก่อนแล้ว ยกคำวินิจฉัยกฤษฎีกาชี้ลงโทษได้เฉพาะอยู่ในสมัยที่กระทำผิด แต่กรณีพฤติกรรมเสื่อมเสียไม่เหมาะสม ผู้บังคับบัญชา อาจดำเนินการถอดถอนได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการจัดกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ประเทศไทย ไม่ทน ไม่เฉย รวมไทยต้านโกง ซึ่งในระหว่างการจัดงานนั้นทาง ป.ป.ช.ได้มีการบรรยายสรุปภารกิจการทำงานของ ป.ป.ช.
โดยในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวนั้น ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา ได้สอบถาม ป.ป.ช. เกี่ยวกับการดำเนินการกับอดีตผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ (นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ) ซึ่งน่าจะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิงก่อนที่จะมีการลงมาสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อวันที่ 28 พ.ย. แต่ว่ายังสามารถลงเลือกตั้งและกลับมาดำรงตำแหน่งได้ ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการถอดถอนผู้บริหารคนดังกล่าวที่ถูกชี้มูลไปแล้วหรือยัง
ขณะที่ นายนิวัฒิไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้กล่าวยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวนั้นถือว่ามีปัญหาข้อกฎหมายพอสมควร ในประเด็นเรื่องการชี้มูลความผิดผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากมีการชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย ซึ่งในทางวินัยนั้น ป.ป.ช.จะต้องส่งเรื่องไปให้ผู้มีอำนาจดำเนินการถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่ง ถ้าหากเป็น นายก อบต. ก็มีการส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะสั่งให้นายอำเภอตรวจสอบและก็เสนอเรื่องไป ประกอบกับตอนนี้กระทรวงมหาดไทยก็มีคำสั่งว่าถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในเรื่องการถอดถอนก็ให้ดำเนินการโดยทันทีเลยไม่ต้องไปมีการสอบสวนใหม่
"แต่สำหรับ กรณี อบต.ราชาเทวะนั้นอาจจะมีประเด็นอยู่ที่ว่าระหว่างที่ส่งเรื่องให้มีการดำเนินการถอดถอนนั้น มันก็มีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีกรณีการให้อุทธรณ์ หรือร้องขอความเป็นธรรมได้ในระยะเวลาที่กำหนด และก็อาจจะมีช่วงคาบเกี่ยวกับเวลาที่พ้นจากตำแหน่งเพื่อไปลงเลือกตั้งเป็นนายก อบต. เป็นเหตุทำให้เขายังไม่ขาดคุณสมบัติได้ ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นช่องว่างในกรณีหนึ่ง" เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุ
นายนิวัฒิไชย กล่าวต่อว่า "มีอีกกรณีหนึ่งที่ ป.ป.ช.ชี้ไปว่าการกระทำความผิดเกิดในสมัยหนึ่ง ปรากฏว่าเขามาสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯในอีกสมัยหนึ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้เคยมีคำวินิจฉัยจากทางกฤษฎีกาไปแล้วว่า การลงโทษในเรื่องนี้ต้องลงโทษในตำแหน่งขณะกระทำความผิด จะนำมาลงโทษในอีกตำแหน่ง ที่เขาได้ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งใหม่ไม่ได้"
"อย่างไรก็ตามในส่วนของพฤติกรรม ที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปว่ามีพฤติกรรมเสื่อมเสียหรือไม่นั้น อาจจะเป็นเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ผู้บังคับบัญชาจะใช้ไปดำเนินการในตำแหน่งใหม่ได้ โดยพบว่าถ้ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอาจจะดำเนินการในการถอดถอนได้ แต่ว่าจะใช้เหตุที่ ป.ป.ช.ชี้มูลเลยไปถอดถอนเขาโดยทันทีนั้นทำไม่ได้"
นายนิวัฒิไชย กล่าวย้ำด้วยว่า ในกรณี อบต.ราชาเทวะนั้นเข้าใจว่าทางต้นสังกัดคงยังไม่ได้สั่งให้ลงโทษ ซึ่งเราก็ติดตามอยู่ และจะให้ทาง ป.ป.ช.ภาค 1 พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการรายงานข้อเท็จจริงเข้ามาต่อไป