รมช.สธ.นำทีมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่เกาะลันตา จ.กระบี่ เผยมีมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวเข้ม ฉีดวัคซีนได้ตามเป้า สถานประกอบการผ่านการรับรอง COVID Free กว่า 180 แห่ง และมีสถานพยาบาลพร้อมรองรับ พร้อมให้กำลังใจ อสม. เตรียมเสนอ ครม.ให้ได้รับค่าตอบแทน 1,500 บาทตลอดชีพ และกู้เงินจากสิทธิฌาปนกิจสงเคราะห์ได้กรณีมีความจำเป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2564 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมมาตรการสาธารณสุขรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยจากโรคโควิด พร้อมมอบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐาน COVID Free Setting ให้แก่ตัวแทนสถานประกอบการ 3 แห่ง ได้แก่ ลองบีชชาเล่ท์ รีสอร์ต, โรงแรมคอกวางบีช รีสอร์ต และร้านอาหารลานตาซีฟู้ด
ดร.สาธิต กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 100 รายต่อวัน หรือไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากร สามารถฉีดวัคซีนโควิด ได้ 635,938 โดส โดยเข็มแรกคิดเป็น 67.57% แต่หากยึดตามฐานข้อมูลหมอพร้อมคิดเป็น 71% ขณะที่เตียงโควิดสีเหลืองมีมากกว่า 40% เพียงพอในการรองรับผู้ป่วย สถานประกอบการผ่านมาตรการ COVID Free Setting 180 กว่าแห่ง ส่วนเกาะลันตามีผู้ติดเชื้อ 759 ราย รักษาหายแล้ว 603 ราย เหลือรักษา 155 ราย และเสียชีวิต 1 ราย แม้โรงพยาบาลเกาะลันตาจะมีขนาด 10 เตียง แต่มีการใช้พื้นที่ โรงพยาบาลเกาะลันตาแห่งใหม่ ขนาด 30 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างมาทำเป็น Cohort Ward 95 เตียง และประสานโรงแรม 3 แห่ง เป็น Hospitel แห่งละ 60 เตียง รวมทั้งหมด 285 เตียง สามารถฉีดวัคซีนได้ 65.93% คาดว่าจะฉีดครบ 70% ได้ในเดือนนี้ แต่ภาพรวมทุกกลุ่มอายุฉีดวัคซีนได้มากกว่า 70%
"กลุ่มแรงงานต่างด้าวในเกาะลันตาได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้งหมด ดังนั้น ช่วงเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่อยากให้มีการรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาเพิ่มเติม แต่หากจำเป็นขอให้รับแบบถูกกฎหมาย ซึ่งทางสาธารณสุขพร้อมฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัย" ดร.สาธิต กล่าว
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ส่วนความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวมีการประเมินกิจการต่างๆ ผ่าน Thai Stop COVID Plus และดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting รวมถึงมาตรฐาน SHA Plus ตั้งแต่เดือน ต.ค. อย่างเช่น ศูนย์แปรรูปอาหารทะเล 'เลลันตาซีฟู้ด' ได้มาตรฐานการผลิต GMP ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting พนักงานได้รับการฉีดวัคซีนและตรวจคัดกรอง ATK สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้สถานประกอบการและประชาชนร่วมกันเข้มมาตรการป้องกันโรค รักษาวินัย เปิดพื้นที่รองรับคนมาเที่ยวมากขึ้น มีความปลอดภัย และไม่สะดุด
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรครั้งนี้ ที่ จ.กระบี่ ทางสาธารณสุขได้นำเสนอการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ เนื่องจากการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไป ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จึงพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลกระบี่ โดยเพิ่มห้องผ่าตัดและไอซียู เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว พัฒนาเกาะลันตาเป็น Wellness Center เพิ่มศักยภาพ Long Term Care เชื่อมโยงการบำบัดกับน้ำพุร้อนคลองท่อม ซึ่งหากสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยและแผ่นดินเสร็จ จะใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที
ส่วนการสร้างโรงพยาบาลเกาะลันตาแห่งใหม่ขนาด 30 เตียง ใกล้เสร็จสมบูรณ์ ทางพื้นที่ได้เสนอของบประมาณสร้างอาคารห้องพิเศษ 12 ห้อง จัดซื้อเครื่องไฮเปอร์บาริกแชมเบอร์ เพื่อรักษาโรคน้ำหนีบ โดยทำระบบเบิกจ่ายกับประกัน นักท่องเที่ยวไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยให้ผู้ป่วยรักษาในพื้นที่ ท่องเที่ยวต่อได้ ผู้ประกอบการไม่สูญเสียโอกาสสร้างรายได้ และยังจัดซื้อแผงโซลาร์เซลล์ และรถพยาบาลฉุกเฉินเพิ่มอีก 2 คัน
ดร.สาธิต กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เกาะลันตา อีกว่า อสม.เกาะลันตามีประมาณ 500 กว่าคน ได้รับวัคซีนโควิดครบทุกคนแล้ว มีความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ สำหรับการดูแลสวัสดิการให้แก่ อสม.นั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ดำเนินการเรื่องฌาปนกิจสงเคราะห์ให้แก่ครอบครัว อสม. ซึ่ง อสม.เกาะลันตาได้สมัครเข้าร่วมครบทั้งหมด และหากเจ็บป่วยสามารถเข้ารักษาห้องพิเศษได้ในอัตรา 1,500 บาท
ส่วนเรื่องของค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของ อสม. 1,500 บาท ระยะเวลา 19 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงเดือนพ.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการเสนอต่อ ครม. เพื่อขอให้ได้ค่าตอบแทน 1,500 บาทตลอดชีพ ซึ่งตรงนี้จะช่วยเหลือ อสม.ในการนำมาชำระค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ 200 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ กำลังหารือในการเพิ่มสิทธิให้สามารถนำสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้เงิน สำหรับ อสม.ที่มีความเดือดร้อนจริงๆ เช่น ซ่อมบ้าน เป็นต้น โดยจะพิจารณาความจำเป็นเฉพาะรายและต้องได้รับการเซ็นยินยอมจากทายาทด้วย
สำหรับ อสม.รายใหม่ที่เป็น อสม.สมทบ จำนวน 30,000-40,000 ราย ที่ยังไม่สามารถสมัครเข้าร่วมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ จะเร่งหารือแนวทางในการผลักดันให้เข้าสู่ระบบการดูแลส่วนนี้ต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage