'อียู'บรรลุข้อตกลงสัญญาขัดส่งวัคซีนวิลนิวา 60 ล้านโดส หวังเป็นตัวเลือกวัคซีนเชื้อตายให้กับชาวยุโรป รับมือโควิดระบาด ด้านบริษัทเผยผลทดสอบมีประสิทธิภาพเท่าแอสตร้าเซนเนก้า แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์อันเกี่ยวข้องกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าบริษัทวิลนิวา ของประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาประกาศในวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาว่าวัคซีนของบริษัทที่มีชื่อว่า VLA2001 นั้นได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธิการยุโรป หรืออียูแล้ว ในการทำข้อตกลงการจัดส่งวัคซีนจำนวนกว่า 60 ล้านโดส ซึ่งการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวนั้นถือเป็นความพยายามที่ทางอียูจำดำเนินการเพื่อรับมือกับการระบาดในหลายประเทศที่กำลังพุ่งสูงขึ้น
“เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่คณะกรรมการยุโรปได้ให้การสนับสนุน และเรามีความกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งที่จะแก้ปัญหาการระบาดที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้” นายโทมัส ลิงเกลบาค ประธานบริหารบริษัทวิลนิวากล่าว
ขณะที่ นางสเตลลา ไคริอาคิเดส คณะกรรมาธิการด้านสุขภาพของอียูกล่าวว่าการอนุมัติวัคซีนวิลนิวาดังกล่าวนั้นเป็นการเพิ่มตัวเลือกด้านวัคซีนของอียู หลังจากที่วัคซีนนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยสำนักงานการยาของอียู
อนึ่ง วัคซีนวิลนิวานั้นเป็นวัคซีนซึ่งใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิม และเป็นวัคซีนเชื้อตาย ไม่ใช่วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีแบบ mRNA ดังนั้นจึงมีความหวังกันว่าวัคซีนนี้นั้นจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับชาวยุโรปที่ยังคงลังเลว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนได้
โดยการทำงานของวัคซีนแบบ mRNA นั้นจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเล็งเป้าหมายไปที่แค่โปรตีนหนามของไวรัสโคโรน่าเท่านั้น แต่ว่าการทำงานของวัคซีนวิลนิวานั้นจะไปกระตุ้นการทำงาน การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้มีต่อตัวไวรัสทั้งหมด ดังนั้นจึงอาจจะทำให้เกิดความได้เปรียบที่มากขึ้นในการรับมือกับไวรัสโคโรน่า
ซึ่งเมื่อประมาณวันที่ 18 ต.ค.ทีผ่านมา ทางบริษัทวิลนิวาได้ออกมาแถลงการณ์ว่าวัคซีนของบริษัทนั้นมีประสิทธิภาพอย่างน้อยก็ดีเทียบเท่ากันวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ในกระบวนการทดสอบวัคซีนในระยะสุดท้าย ที่ดำเนินการฉีดวัคซีนเป็นจำนวน 2 โดส และมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และการทดลองวัคซีนของบริษัทวิลนิวานั้นก็ได้ดำเนินการในช่วงเวลาที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าไปเป็นวงกว้างแล้ว
ทางบริษัทวิลนิวายังได้ระบุอีกว่า การทดลองวัคซีนซึ่งมีการเว้นระยะห่างระหว่างวัคซีนโดสที่ 1 และโดสที่ 2 เป็นระยะเวลา 28 วันนั้นพบว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามาก โดยมีผลข้างเคียงแค่อาทิ อาการปวดแขนและเป็นไข้
โดยคณะกรรมการยุโรปก็ได้ออกมาระบุเช่นกันว่าขณะนี้ทางอียูได้มีการทำสัญญากับบริษัทวิลนิวาแล้ว ซึ่งบริษัทจะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศในอียูเป็นจำนวนเกือบ 27 ล้านโดสในช่วงปี 2565 และประเทศต่างๆนั้นจะสามารถสั่งซื้อวัคซีนได้เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนกว่า 33 ล้านโดส ในช่วงปี 2566
และข้อตกลงดังกล่าวนั้นก็ยังครอบคลุมไปถึงว่าจะมีการปรับปรุงวัคซีนให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสายพันธุ์ของไวรัสที่อาจจะมีการกลายพันธุ์ได้อีกในอนาคต
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage