พรรคเพื่อไทย มติเอกฉันท์ ขับ ‘ศรัณย์วุฒิ - พรพิมล’ พ้นพรรค ฐานปฏิปักษ์ทำลายชื่อเสียง-ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น หาสังกัดใหม่ใน 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงมติคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่พิจารณารายงานการสอบสวนวินัยและจริยธรรมของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม โดยมีมติดังนี้
1.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ที่มีพฤติการณ์กล่าวหาพรรคและผู้บริหารของพรรคด้วยการแถลงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งติดต่อกัน อันมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค เป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 ข้อ 19 (3) และ (8) และเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (3) และ (5) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรคข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
2.นางสาวพรพิมล ธรรมสาร มีพฤติการณ์ ฝักไฝ่พรรคการเมืองอื่น ไม่ยึดมั่นในเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค อีกทั้งเป็นการกระทำผิดซ้ำสองในพฤติการณ์เดียวกัน ซึ่งพรรคเคยมีมมติลงโทษไปแล้ว ตามคำสั่งพรรคเพื่อไทยที่ 0045/2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งการฝักไฝ่พรรคการเมืองอื่นของนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 ข้อ 19 (3) และ (7) และถือเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (2) (3) และ (12) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรคข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า หลังจากที่นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว มีกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน 135 คน โดยผลปรากฏว่า กรณีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มีผู้ลงคะแนนเห็นด้วย 131 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง ส่วนกรณีนางสาวพรพิมล ธรรมสาร มีผู้ลงคะแนนเห็นด้วยกับมติกรรมการบริหารพรรค 134 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 0 เสียง
ดังนั้น
จึงถือว่ามติที่ให้นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และ นางสาวพรพิมล ธรรมสาร พ้นจากสมาชิกภาพของการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมีเสียงเห็นด้วยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 หรือ 108 เสียง ดังนั้น นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และ นางสาวพรพิมล ธรรมสาร จึงพ้นจากความเป็นสมาชิกภาพ พรรคเพื่อไทยนับแต่วันนี้เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (9) ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ในกรณีเช่นนี้ ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นมิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่พ้น 30 วันดังกล่าว
มีรายงานด้วยว่า นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี มีแนวโน้มที่จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนกรณีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ขอสรุปรวบรวมข้อมูลประมาณ 1 วัน จากนั้นจะมาแถลงรายละเอียดให้สื่อมวลชนรับทราบต่อไป
ข่าวประกอบ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage