'ป.ป.ช.' แถลงข่าวเอาผิดอดีตเจ้าพนักงานที่ดินกระบี่-พวก 18 ราย ออกเอกสารสิทธิ์ นส.3 กโดยไม่ชอบ เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจ 'ประยุทธ มหากิจศิริ' ได้ที่ดินทับหนองน้ำสาธารณประโยชน์เพิ่มโดยไม่ชอบ
.............................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการแถลงข่าวคดีทุจริตเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้แถลง
นายนิวัติไชย เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในคดีกล่าวหา นายศักดิ์วุฒิ ฉิมพิมล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่กับพวกรวม 18 ราย ในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่และในเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ณ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่เนื้อที่ 66 ไร่เศษ โดยมีการนำที่ดินนอกหลักฐานอันเป็นที่ของรัฐประมาณ 19 ไร่เศษ นำมาจัดทำเป็นเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบเรื่องนี้มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเอกชน ก็คือ นายประยุทธ มหากิจศิริ ผู้ก่อตั้งบริษัทในกลุ่มเนสกาแฟ มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยจากการสอบสวนของ ป.ป.ช. พบว่า บริเวณสถานที่เกิดเหตุคือบริเวณที่เป็นชายเหตุชายทะเลถึงโคนเขา ซึ่งที่เกิดเหตุจะอยู่ตรงติดชายทะเล ซึ่งเดิมทางกรมพัฒนาที่ดินเคยสำรวจที่ดินแปลงนี้ไว้แล้วพบว่าอยู่ในแปลงที่ดินของรัฐแปลงที่ 6 เป็นที่ดินสำหรับกำหนดไว้เป็นป่าไม้ถาวรของชาติและมีพื้นที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดังนั้นพื้นทั้ง 2 บริเวณดังกล่าวนั้นคือที่ดินของรัฐ แต่ปรากฏว่าหลังจากปี พ.ศ.2504 ทางกรมพัฒนาที่ดินได้ไปสำรวจและจำแนกที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้วไม่มีผู้ถือครอง ซึ่งตามหลักฐานเดิมเลย ก็ไม่พบว่ามีเอกสารสิทธิ์
ขณะที่จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่าเคยมีประชาชนเข้ามาทำกินจำนวน 22 รายแต่ไม่มีหลักฐานการครอบครองแต่ปรากฏว่ามีการเอาหนังสือ ส.ค.1 ไปจองซึ่งเป็นที่ดินสำหรับแปลงอื่นเอามาสวมออก นส.3 กจำนวน 9 แปลงได้เนื้อที่ 66 ไร่ หลังจากนั้นก็มาขายต่อให้กับนายประยุทธ มหากิจศิริ ซึ่งนายประยุทธก็ได้นำเอาหนังสือไปออก นส.3 กจำนวน 9 แปลง ไปรวมออกเป็น นส.3ก แปลงเดียวคือ นส.3 ก เลขที่ 263 ได้เนื้อที่ 73 ไร ได้เนื้อที่เพิ่มขึ้น แล้วนายประยุทธ์ก็เอาหนังสือ นส.3 ก ซึ่งมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นไปเป็นโฉนดก็ได้เนื้อที่เพิ่มขึ้นแล้วก็ทับหนองน้ำสาธารณะประโยชน์ ซึ่งอันนี้ก็คือหลักฐานที่ ป.ป.ช.ไปค้นพบซึ่งเป็นหลักฐานที่เก่ามาก
ดังนั้น ป.ป.ช. ก็เลยมีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งหมด 6 ราย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปกครองท้องที่ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาประโยชน์ 1 รายแล้ว และเอกชนก็คือ นายประยุทธ์ และเจ้าของที่ดินข้างเคียงที่มีการสมยอมแนวเขตข้างเคียง ป.ป.ช.จึงได้มีมติข้อมูลความผิดทั้งมาตรา 151 157 และ 162 ความผิดตามกฎหมายและตามกฎหมายป่าไม้
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage