ทะลุฟ้าจัดชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง นายกฯตำแหน่ง-รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตย-ปฏิรูปสถาบัน ขนานคาร์ม็อบเครือข่ายไล่ประยุทธ์ 'ณัฐวุฒิ-สมบัติ'เปรยขอ 1 สัปดาห์จุดกระแสให้ติด เตรียมจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ย. ส่วนทะลุแก๊ซดินแดงยังคงเดือด เจ้าหน้าที่เข้ากระชับพื้นที่บุกรวบกลุ่มวัยรุ่น ทะลุแก๊สเผารถตำรวจพร้อมตั้งแนวรับ
------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2564 กลุ่มทะลุฟ้า นัดหมายชุมนุมผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทะลุฟ้า - thalufah เวลา 16.00 น. จัดกิจกรรม 'ม็อบ 7 กันยา ทำมา 7 ปี อภิปรายครั้งนี้รอดมาได้ยังไง' บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะมีการจัด ART Gallery เชิญชวนให้มวลชนมาเสพงานศิลป์ จากศิลปินที่สร้างศิลปะ เพื่อรับใช้ประชาชน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3) ปฏิรูปสถาบัน
ทั้งนี้ กลุ่มทะลุฟ้า นำป้ายผ้าใบผืนใหญ่เขียนข้อความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญในฝันปีนขึ้นไปคลุมพานรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ มีการผูกป้ายผ้าบนรั้วเหล็กรอบอนุสาวรีย์ ข้อความว่า หมดเวลาทรราชสูบเลือดประชาชน , มติอัปยศ , เมื่อผู้แทนไม่ทำหน้าที่ ประชาชนจึงต้องออกมา
โดยเมื่อเวลา 15.45 น. เริ่มมีมวลชนทยอยรวมตัวมาร่วมกิจกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมีการเปิดเพลงปลุกใจ และมีการนำป้ายผ้าที่มีข้อความต่างๆ แสดงถึงความรู้สึกและสิ่งที่ต้องการสื่อสารถึงรัฐบาล เช่น ยกเลิก 250 สว., การศึกษาพัง , อยากรื้อจีโน่ เป็นต้น ปีนขึ้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขึ้นสู่พานแว่นฟ้า
จากนั้นได้มีการปราศรัยถึงการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในศึกผลโหวตซักฟอกที่ผ่านมา บรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้พื้นที่ 2-3 ช่องจราจรทำกิจกรรม
ขณะที่ผู้เข้าชุมนุมจำนวนไม่มากนักได้ร่วมกันโปรยกระดาษจำนวน 11,200 แผ่น เพื่อแสดงออกให้ยกเลิก 112 และร่วมชู 3 นิ้วขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ออกออกจากตำแหน่ง และมีการจัดการแสดง ก่อนที่เวลา 20.10 น.จะประกาศยุติการชุมนุม
ขอ 1 สัปดาห์จุดกระแสให้ติด เตรียมจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ย.
ทางด้าน กลุ่มเครือข่ายไล่ประยุทธ์ นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด มีการจัดกิจกรรม คาร์ม็อบ และ ไบค์ม็อบ โดยมีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เดินทางมาร่วมกิจกรรม เพื่อบีบแตรขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มไบค์ม็อบ ได้เคลื่อนออกจากบริเวณแยกอโศก ไปตามเส้นทาง ถ.สุมขุมวิท มุ่งหน้าพระโขนง จากนั้นจะวนกลับมาที่แยกอโศกอีกครั้ง โดยมีตำรวจจราจรคอยดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวก เนื่องจากการเคลื่อนขบวนครั้งนี้ไม่ได้มีการปิดถนน
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนกิจกรรมเริ่มว่า ธีมของวันนี้เป็นคอนเซปต์ของไบค์ม็อบ เนื่องจากก่อนหน้านี้จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ ที่เน้นรถยนต์เป็นหลัก อย่างไรก็ดีได้คุยกับนายณัฐวุฒิแล้วว่า สมาชิกคาร์ม็อบส่วนมากเป็นมอเตอร์ไซค์ จึงคิดว่าควรจัดกิจกรรมเฉพาะมอเตอร์ไซค์ให้ชัด ๆ เริ่มทำให้ที่นี่เป็นฐานที่มั่น ก่อนจะพัฒนากิจกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา ส่วนการชุมนุมใหญ่จริง ๆ คงจะต้องเป็นวันเสาร์ หรืออาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาหล่อเลี้ยงกันไป ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์และการสื่อสาร
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดกิจกรรมตอนนี้ กำลังหารูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยมีสมมติฐานตรงกันและค่อนข้างมั่นใจว่าประชาชนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ติดปัญหาที่รูปแบบ จึงเกิดคาร์ม็อบขึ้นมา และตอบโจทย์แล้วว่าคนพร้อมมีส่วนร่วมแสดงออกทางการเมือง แต่ต้องหารูปแบบให้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงปั้นกระแส ต้องก่อให้ได้ ถ้าก่อติดจะนำไปสู่ม็อบขนาดใหญ่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้ ถ้าไปไม่ได้อาจต้องทบทวนกัน
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์นี้พูดถึงการก่อก่อน จุดให้ติดก่อน จุดให้มีสัญญาณบางอย่าง พอจุดติดจะต้องมีกลยุทธ์หนึ่งคือ การจัดม็อบใหญ่ คิดอ่านเรื่องกลยุทธ์ว่ามีวาระอะไร เช่น วาระครบ 15 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ตรงกับวันอาทิตย์ คุยกับนายณัฐวุฒิ คิดว่าน่าจะมีวาระสำคัญ มีม็อบใหญ่ แต่ระหว่างทางอีก 10 กว่าวัน ป้อมค่ายตั้งสำเร็จหรือไม่
“มีการเรียกร้องจากมวลชนจำนวนมาก การจัดอีเวนต์อาจไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ แต่มันสะท้อนแรงกดดันสะท้อนไปยังสภาผู้แทนราษฎร แต่เมื่อมีการโหวตไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จัดอีเวนต์แบบนั้นจะส่งสัญญาณหาใคร จึงต้องจัดป้อมค่ายเลย แต่การจัดม็อบถาวรมีข้อจำกัด เช่น เคอร์ฟิว ไม่อาจระดมคนต่างจังหวัดมาสมทบได้ ทั้งที่จริงมีคนจากต่างจังหวัดไม่น้อยอยากมาร่วม แต่ทำไม่ได้ ไม่ควรจะติดหล่ม กลุ่มการเมืองทุกสีทดสอบแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว จะพบว่าเปลืองพลังงาน สิ้นเปลืองทรัพยากร ต้องทำใต้กรอบเป็นไปได้ จะลองทำม็อบ 3 ชั่วโมงไปรอดหรือไม่” นายสมบัติ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะลองประเมินโมเดลของขบวนของรถจักรยานยนต์ ก่อนจะขยาย และออกแบบการนัดหมายใหญ่ ชุมนุมใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และได้ให้รถจักรยานยนต์ นำสติ๊กเกอร์ 'ไล่ประยุทธ์' ไปติดในละแวกบ้านตามความเหมาะสม ส่วนภาคเวทีจะเป็นอีกวันที่เปิดพื้นที่เป็นเวทีสาธารณะให้มวลชนได้มาแสดงความคิดเห็น
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถือเป็นวันสัญลักษณ์ของการสูญเสียประชาธิปไตย และการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 คือผลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 ดังนั้น จึงถือเป็นวันหมุดหมายสำคัญที่จะชวนประชาชนแสดงพลังครั้งใหญ่ต่อต้านเผด็จการ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนรูปแบบ เวลา จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง คาดว่าอาจจะเริ่มต้นจากแยกอโศกแห่งนี้
ส่วนในวันที่ 19 ก.ย. 2549 ที่จะเป็นการชุมนุมใหญ่จะมีมวลชนมามากน้อยแค่ไหนนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หากเป็นรูปแบบคาร์ม็อบ มวลชนจะออกมาร่วมกันจำนวนมาก และทำได้ทุกนัด หากลงถนนยังเป็นการทดลอง ส่วนการชุมนุมยืดเยื้อเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ขณะนี้ในเชิงปริมาณไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ประเด็นหลักคือความจริงของสถานการณ์ที่จะสะท้อนการแสดงออกของประชาชนอย่างไร ถ้าจะเดินไปข้างหน้าจะต้องดูรูปแบบว่าจะเดินไปอย่างไร อาจจะผสมผสานคาร์ม็อบ รถจักรยานยนต์ และคน ยังอยู่ในการปรับรูปแบบอยู่ ประเมิน 2 วันที่ผ่านมา ถือว่าทุกอย่างยังอยู่ในความพอใจ
คฝ.กระชับพื้นที่-รวบวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ ด้านทะลุแก๊สเผารถตำรวจ พร้อมตั้งแนวรับ
กลุ่มทะลุแก๊ส โพสต์ข้อความนัดหมายการชุมนุม ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เยาวรุ่นทะลุแก๊ส ที่บริเวณ แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 17.30 น.
เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. กลุ่มทะลุแก๊ส เริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่แยกดินแดง โดยบางรายมีการจุดระเบิดปิงปองปาลงบนพื้นผิวจราจร
เวลา 17.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ชุดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เข้าปฏิบัติหน้าที่รุกรับฉับไว สามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุแก๊ส และยึดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ได้จำนวนหนึ่ง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่มายืนรอร่วมชุมนุมอยู่บริเวณริมฟุตปาธ ได้พยายามตะโดนด่าทอและเขวี้ยงปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ว่าทำเกินกว่าเหตุ โดยบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ขับรถกระบะชน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงได้ให้มูลนิธิร่วมกตัญญูปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี
ต่อมา เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ชุมนุมพร้อมรถจักรยานยนต์ที่ยึดได้ออกจากพื้นที่ทันที และมีกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งดูแลพื้นที่แยกดินแดงไว้ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันได้อีก แต่ระหว่างการจับกุมมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความไม่พอใจเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่เล็กน้อย
เมื่อเวลา 19.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุแก๊ส ได้รวมตัวตั้งโล่และตั้งแนวรับ จากนั้นผ่านไป 5 นาที ปรากฏว่ามีการเผารถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ หรือรถบิ๊กไบค์ ซีบี 500 บริเวณทางลงอุโมงค์ดินแดง โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมนำมาจากบริเวณใด แต่เหตุการณ์เริ่มดุเดือดมากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่มีการจู่โจมเข้ามาจับกุม อาจทำให้เกิดความโกรธแค้น นอกจากนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังนำถังขยะมาใส่เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติมด้วย
ต่อมา มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางมวลชนให้ข้อมูลว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปตีด่านตรวจ ก่อนจะขับเข้ามาในพื้นที่และจุดไฟเผา ส่วนยุทธศาสตร์การชุมนุมในวันนี้พบว่ามีการประสานงานกันมากขึ้น มีการสั่งการ มีผู้นำ และแบ่งงานกันชัดเจน
เวลา 19.50 น. มีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวมาบริเวณปากทางลงอุโมงค์ดินแดง พร้อมทั้งตั้งแนวโล่ และนำรถจักรยานยนต์สายตรวจ จำนวน 1 คันมาเผาจนวอดทั้งคัน ขณะที่สายฝนยังคงโปรยปรายต่อเนื่อง
เวลา 20.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมมีการถอนโล่ แต่ยังคงรักษาพื้นที่บริเวณปากทางหลวงอุโมงค์ดินแดงไว้ และยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนในบริเวณนี้ ขณะที่ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยจากพื้นที่ โดยมุ่งหน้ากลับไปบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง
เมื่อเวลา 20.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันช่วงทางลงอุโมงค์ดินแดง ได้เคลื่อนกำลังมีอยู่ประมาณ 50 คน กลับไปตั้งหลักที่แยกดินแดง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 21.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยกลับมายังซอยด้านหน้าแฟลตดินแดงใกล้กับใต้ทางด่วนดินแดงแล้ว โดยจัดดังกล่าว ไฟฟ้าสาธารณะได้ดับมืดลง ท่ามกลางฝนที่ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดไฟเผายางรถยนต์กลางถนน ทำให้เกิดแสงสว่างด้วย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้เฝ้าสังเกตการณ์ว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหรือไม่
รอง ผบช.น.เผยม็อบดินแดงเผา จยย.ตำรวจ เตือน ปชช.ระมัดระวังอันตราย
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปการปฏิบัติภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมภายในพื้นที่ กทม. ว่า มีการชุมนุมหลายพื้นที่โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นัดรวมตัวที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยผู้จัดกิจกรรมได้เทสี และสิ่งสกปรกบนพื้นผิวจราจร ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต ได้จับกุมผู้ประทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บริเวณแยกอโศก โดยบางส่วนได้จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ
กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการปราศรัย และเผาทรัพย์สินต่าง ๆ บริเวณถนนโดยรอบ และกลุ่มสุดท้ายกลุ่มทะลุแก๊ส ที่นัดรวมตัวที่บริเวณสามแยกดินแดง โดยกลุ่มใช้ความรุนแรงขวางปาสิ่งของต่าง ๆ ปาพลุ ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง และระเบิดแสวงเครื่อง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถานที่ราชการและประชาชนในบริเวณดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการกองตำรวจนครบาลต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ จำนวน 15 คน พร้อมของกลางอาวุธระเบิดแสวงเครื่องจำนวนหนึ่งและอาวุธจำนวนหนึ่งเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้หยุดแต่ไม่หยุดเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 216
โดยขณะนี้การชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงยังคงก่อเหตุและก่อความไม่สงบเรียบร้อย โดยเผารถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ได้รับความเสียหาย ขอให้ประชาชนที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวให้ระมัดระวังอาจได้รับอันตรายจากผู้ก่อเหตุ พร้อมขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้านก่อน 21.00 น.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage