'ม็อบ5กันยา'จัดกิจกรรมแยกอโศก 'บก.ลายจุด' คาดตั้งเวทีปราศรัย - คู่ขนานขบวนคาร์ม็อบจัดกิจกรรมทุกวัน 16.00-20.00 น. 'ณัฐวุฒิ' ชี้กระแสล้มนายกฯ สร้างบรรยากาศคุกรุ่นใน พปชร. ขณะที่ 'ทรงพล'ลั่นผิดหวังผลโหวตซักฟอก มวลชนตะโกน'ประยุทธ์ออกไป'กึกก้อง
ผู้สื่อข่าวรายงาว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2564 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด สองแกนนำ ประกาศนัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริเวณแยกอโศกมนตรี
โดยตั้งแต่ก่อนเวลา 16.00 น. มีประชาชนเดินทางทยอยเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ได้มีการตั้งเวทีชั่วคราว เพื่อใช้ในการปราศรัยในพื้นที่ ขณะที่กลุ่มทะลุฟ้า นัดจัดกิจกรรมเขียนป้ายผ้า เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน บริเวณดังกล่าวด้วย
จัดคาร์ม็อบ-ชุมนุมแยกอโศกทุกวัน
นายสมบัติ กล่าวว่า การชุมนุมหลังจากนี้จะทำแบบผสมผสาน ระหว่างการปักหลักชุมนุมและจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ โดยทุกวันเวลา 16.00 – 20.00 น. จะมีการตั้งเวทีปราศรัยอยู่ที่บริเวณแยกอโศกโดยตนเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ส่วนนายณัฐวุฒิ จะนัดหมายการเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบทุกวัน โดยใช้วิธีนัดหมายจุดเริ่มต้น และมีปลายทางที่แยกอโศก
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้งเกิดขึ้นนอกสภา เนื่องจากในสภาถ้ามีเสียงเพียงพอก็โหวตล้มได้ แต่พวกเราไม่มีเสียง เพราะไม่มีกล้วย ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว คนที่เอากล้วยมาแจกเขาได้เราก็ไม่รู้เขาเอามาจากไหน แต่เราสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ที่ภายนอก ขอแค่มวลชนยังไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่น และแสดงเจตจำนงที่ชัดเจน ก็จะสามารถช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
“เราปักหลักชุมนุม แต่ไม่พักแรม มีกรอบเวลาชัดเจน วันละ 3-4 ชั่วโมง มีลักษณะคล้ายกับแฟลชม็อบ ที่ตอนเย็นมาเจอกัน พอถึงหัวค่ำก็แยกย้ายกลับ เพียงแต่ต้องสร้างวินัยในหมู่ประชาชน และนี่คือป้อมค่าย ไม่ใช่อีเวนต์ และจะช่วยสร้างแรงกดดัน และต่อรองฝ่ายการเมืองได้” นายสมบัติ กล่าว
'ณัฐวุฒิ'ชี้กระแสล้มนายกฯ ทำ พปชร.คุกรุ่น
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การชุมนุมหลังจากนี้คือการประกาศจุดยืนไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในสภา แม้จะเป็นการลงมติไว้วางใจตามระบบกติตกา แต่ข้อเท็จจจริงที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันยิ่งชัดว่ารัฐสภาของประเทศนี้ถูกเหยียบย่ำทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ประกอบกับความขัดแย้งภายในของรัฐบาล และยังมีกระแสข่าวคนเป็นนายกรัฐมนตรียังต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดทางการเมือง ถึงขั้นมีการใช้กล้วยหรือวิธีสกปรกกันในสภาหรือไม่ เรื่องนี้แม้ว่าไม่ปรากฎพยานหลักฐานชัดเจน แต่ตนเชื่อว่าคนทั่วไปที่ติดตามสถานการณ์เขารับรู้ได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวย้ำว่า ที่ผ่านมาการแสดงพลังด้วยรูปแบบคาร์ม็อบ เราขยายตัวได้ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ แต่การนัดชุมนุมแสดงพลังกลางท้องถนน ความกังวลข้อห่วงใยเรื่องโรคระบาดยังเป็นปัจจัยหลักใหญ่ที่จะต้องนำมาพิจารณา ดังนั้นเวทีการชุมนุม จะยืนยันว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ เราก็จะยังไล่ ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ ขอเวลาเราทำการบ้านให้ชัดเจนกว่านี้อีกครั้ง
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงผลการอภิปรายไมไว้วางใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รับการยอมรับจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง แม้กระทั่งแกนยนำพรรคพลังประชารัฐ กระแสข่าวความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้น ไม่มีทางเปด็นไปได้เลย หากอำนาจหรือภาวะการนำยังอยู่ ถ้า 3-5 ปีก่อนไม่มีทางเกิดเหตุแบบนี้ แต่ตอนี้เห็นว่าภาวการณ์นำของพล.อ.ประยุทธ์ถดถอยที่สุด และตนไม่เชื่อว่า หลังจากนี้ไปแล้วในรัฐบาล โดยเฉพาะในพรรคพลังประชารัฐจะรักษาเสถียรภาพหรือเดินหน้าต่อไปด้วยความราบรื่น
“คนมันกินใจกันแล้ว เหยียบตาปลากันอย่างหนักแล้ว ขบวนการไหนใครก็ตามในรัฐบาลที่มีกระแสข่าวเคลื่อนไหวจะโค่นล้ม พล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับต้องข้อหาพยายามฆ่าทางการเมืองแล้ว ผมว่าแม้จะประคับประคองกันอย่างไร ก็ไม่สนิทใจกันอยู่ดี ยังคะเนต่อไปด้วยว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลในระยะใกล้ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจริง ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐ คุกรุ่นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความสัมพันธ์ของ 3ป. ที่บอกว่าหนักแน่นดังภูผา มาดูกันจริงๆ ความเคลื่อนไหว 2-3 วันที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นโดยรอดหูรอดตา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จริงหรือไม่” นายณัฐวุฒิ กล่าว
มวลชนตะโกน 'ประยุทธ์ออกไป' กึกก้อง
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีถึงการบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์โควิดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่าล้านราย แต่ผู้แทนราษฎรยังโหวตให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อได้
จากนั้นจึงชวนให้มวลชนร่วมกันส่งเสียงโห่ร้องให้ ส.ส.ที่โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนจะกล่าวบทกวีและชวนให้มวลชนตะโกน 'ประยุทธ์ออกไป' ให้ดังกึกก้อง ในขณะเดียวกันได้มีการโปรยกระดาษลงมาจากสกายวอล์กแยกอโศก โดยขีข้อความระบุถึงปัญหาต่างๆ ตลอดการบริหาร 7 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์
และในเวลา 20.04 น. ได้มีการนัดหมายกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ พร้อมขอให้มวลชนร่วมกันชู 3 นิ้วและร้องเพลง เราคือเพื่อนกัน ของวงสามัญชน ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุม
มวลชนแยกดินแดงปาประทัดยักษ์ เข้ากรมดุริยางค์ฯ-คฝ.ยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตาโต้
ขณะที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อเวลา 18.00น.เริ่มมีมวลชนขับรถจักรยานยนต์เข้ามา จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หน้าปั๊มน้ำมันใกล้กับกรมดุริยางค์ทหารบก ซึ่งเป็นจุกพักคอยของตำรวจควบคุมฝูงชน ก่อนจะเข้าประชิดรั้ว ปาประทัดยักษ์ พลุ เข้าไปด้านในหลายครั้ง พร้อมกับขับรถจักรยานยนต์ส่งเสียงดังวนไปมา ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ยิงโต้ตอบ เพื่อกดดันให้ยุติการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
ภาพบรรยากาศจาก : JS100 Radio,โพสต์ทูเดย์
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage