เครือข่ายประชาชน-กลุ่มไทยไม่ทนฯ ตบเท้าเข้า ป.ป.ช. ยื่นตรวจสอบ ‘อนุทิน-จุรินทร์-บิ๊ก สธ.’ ปมแก้ไขโควิด-19 ล้มเหลว สร้างเงื่อนไข-ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไฉนซื้อซิโนแวคแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
............................................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยสร้างเงื่อนไข และการบริหารจัดการเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาโควิดไม่เสร็จสิ้นโดยเร็ว และใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า
เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และกลุ่มไทยไม่ทน ขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ดังนี้ 1.ฟ้าทะลายโจรสามารถทำการรักษาผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการในสามสี่วันแรกได้และได้ผลดีกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ แต่กระทรวงสาธารณสุขที่กำกับดูแลโดยนายอนุทิน และกรมการแพทย์ที่กำกับดูแลโดย นพ.สมศักดิ์ ได้ทำแนวทางให้แพทย์รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ แต่ไม่กำหนดให้ใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยในเบื้องต้น รวมถึงกรมการแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขไม่กำหนดให้ฟ้าทะลายโจรชนิดผงบด เป็นคู่มือแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดเบื้องต้น แต่แนะนำเพียงสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่หายากและแพงกว่าชนิดผงบด ทำให้ตัดโอกาสผู้ป่วยที่จะหายและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19และเพิ่มภาระของโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และงบประมาณแผ่นดินในการรักษา
2.ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคของประเทศไทยที่ซื้อในราคาแพงกว่าราคาที่ประเทศเพื่อนบ้านซื้อ
3.ขอให้ตรวจสอบ นพ.นคร ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ว่า ทำไมตัดสินใจซื้อซิโนแวคมากกว่าซื้อซิโนฟาร์ม หรือวัคซีนที่มีคุณภาพมากกว่า ราคาถูกกว่า ไม่ว่าจะเป็นแอสตราเซเนกา หรือ mRNA เช่น ไฟเซอร์ โมเดอร์นา
4. ขอให้ตรวจสอบ นพ.เกียรติภูมิ และ นพ.วิฑูรย์ ว่าการที่องค์การเภสัชกรรม เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าเก็บรักษา ค่าขนส่ง ค่าประกันและค่าอื่น ๆ ในวัคซีนโมเดอร์นาที่โรงพยาบาลเอกชน โดย นพ.บุญ วนาสิน นำเข้ามาเพื่อฉีดป้องกันโรคให้ประชาชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3,5,47,55 หรือไม่
5. ขอให้คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ตรวจสอบการ นายจุรินทร์ ในการกำกับดูแลการจัดซื้อแผ่นตรวจโควิดแอนติเจนเทสคิท หรือ ATK ว่าทำไมประเทศไทยซื้อแพงกว่าสหรัฐอเมริกา และยุโรป เกือบ 10 เท่าตัว เป็นภาระต่อแผ่นดินและภาระต่อประชาชนที่ต้องการซื้อมาตรวจ ทั้ง ๆ ที่ควรได้รับฟรี ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55
6.ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบการจัดสรรโควตาวัคซีนเป็นไปตามประกาศหรือไม่ และในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทั่วถึงหรือไม่ ทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ที่สังกัดโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเอกชนทุกแห่งที่ดูแลคนไข้สีเหลืองสีเขียวด่านหน้า และในการจัดสรรจำนวนวัคซีนโควิดให้พื้นที่สีแดง สีเหลืองเป็นธรรมหรือไม่ ทำไมจังหวัดพื้นสีเหลือง ได้มากกว่าพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่นักการเมืองเป็นสังกัดกระทรวงสาธารณะสุขที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายอนุทิน จึงได้โควตาวัคซีนมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ
โดยขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อร้องเรียนทั้ง 6 ข้อ ว่าผู้ถูกร้องเรียนมีการกระทำหน้าที่อาจทุจริตต่อหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือมีความผิดในการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและไม่เป็นไปตามประมวลจริยธรรมทางราชการพลเรือนและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 ทั้งนี้ ขอให้ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และขอให้ผู้ถูกร้องเรียนทั้ง 7 คนดำเนินการแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่ใดที่ขัดต่อกฎหมาย ต่อไปทันทีและขอทราบผลความคืบหน้าในการตรวจสอบเบื้องต้นใน 30 วัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/