ครม.อนุมัติช่วยค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของ ศธ. และ อว. ประจำภาคเรียน ที่ 1 /2564 วงเงินรวม 32,000 ล้านบาท พร้อมจัดงบอีก 181.5 ล้านบาท หนุนโครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
--------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด ในภาคการเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2564 รวมวงเงิน 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน 22,000 ล้านบาท และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วงเงิน 10,000 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้
1. กระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาให้นักเรียนและนักศึกษา ทุกคนทุกกลุ่มในสถานศึกษาของรัฐและเอกชนทั้งในและนอกสังกัด ศธ. รวมทั้งสิ้น 10,952,960 คน โดยให้ความช่วยเหลือ 2,000 บาทต่อคนในภาคการศึกษาที่ 1/2564 กรอบวงเงิน 22,000 ล้านบาท และมาตรการที่ 2 สนับสนุนสถานศึกษาในการจัดการเรียนการสอนและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรควิด ไม่เกิน 10,000 บาทต่อโรงเรียน รวมจำนวน 34,887 แห่ง แบ่งเป็น สถานศึกษาของรัฐ 30,879 แห่ง และสถานศึกษาเอกชน ที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐ อีก 4,008 แห่ง วงเงินรวมทั้งสิ้น 94.08 ล้านบาท
สำหรับมาตรการที่ 1 วงเงิน 22,000 ล้านบาท ยังคงใช้จ่ายจากพ.ร.ก. เงินกู้ฯ ขณะที่ วงเงิน 94.08 ล้านบาท มาตรการที่ 2 เดิมที่อยู่ในเงินกู้ช่วยเหลือบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการศึกษานั้น ให้ใช้เงินจากงบประมาณแทน เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการใช้เงินกู้
2. โครงการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยนิสิต นักศึกษา กลุ่มเป้าหมายจำนวน 1,788,522 คน แบ่งเป็น 1) นิสิต นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ จำนวน 1,458,978 คน 2) นิสิต นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชนในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ จำนวน 285,000 คน และ 3) นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐนอกสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ จำนวน 44,544 คน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย
1.ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐจำนวน 100 แห่ง ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษาทั้งภาคปกติ ภาคพิเศษ และภาคสมทบ โดยลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษา ที่ต้องจ่ายในส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 50 ส่วนตั้งแต่ 50,001–100,000 บาท ช่วยเหลืออัตราร้อยละ 30 และตั้งแต่ 100,001 บาทขึ้นไปช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 10 โดยรัฐบาลและสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐจะร่วมกันช่วยเหลือเยียวยาในสัดส่วน 6:4
2.ช่วยค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาภาคเอกชน จำนวน 72 แห่ง โดยเยียวยาค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา คนละ 5,000 บาท
3. ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา อื่น ๆ เช่น การให้ทุนศึกษา ขยายเวลาการชําระ ค่าธรรมเนียมการศึกษา ผ่อนจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา ขยายเวลาสําเร็จการศึกษา ลดและคืนค่าหอพัก รวมทั้งการจ้างงานหรือส่งเสริมรายได้ให้กับนักศึกษา เป็นต้น
นายอนุชา เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาทั้งของกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา ฯ มุ่งช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด ให้บุตรหลานยังสามารถอยู่ในระบบการศึกษาได้ต่อไปได้ ขณะเดียวกันยังลดภาระค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนให้กับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ กรณีสถานศึกษาที่อยู่ภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น คณะรัฐมนตรีขอให้พิจารณาใช้แหล่งเงินอุดหนุนขององค์กรกปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นลำดับแรกก่อน
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564-2572 ในกรอบวงเงิน 181.5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ซึ่งโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนเรียนดี มีความสามารถในจังหวัดชายแดนใต้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้เข้าศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จนสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) และเมื่อจบแล้วมีงานทำ
สำหรับโครงการนี้ได้ตั้งเป้าหมายนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปวช.จำนวน 1,800 คน และปวส.จำนวน 600 คน รวมทั้งสิ้น 2,400 คน ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระดับ ปวช.จะได้ทุนละ 30,000 บาทต่อคนต่อปี และระดับปวส.จะได้ทุนละ 40,000 บาทต่อคนต่อปี
ทั้งนี้ ศธ.ได้ระบุว่า โครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 จนถึงปี 2563 มีผู้รับทุนไปแล้วประมาณ 3,900 คน โดยได้สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาในโครงการ ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีความเสี่ยงที่อาจจะออกนอกระบบการศึกษา เนื่องจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เพราะอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้น้อย มีปัญหาทางสังคม ดังนั้นการสนับสนุนให้นักเรียนเข้ามาอยู่ในความดูแลของสถานศึกษา มีอาหาร มีที่พักอย่างเพียงพอ จะช่วยลดภาระทางเศรษฐกิจของครอบครัวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ นอกจากนี้การรับนักเรียน นักศึกษาเข้ามาพักประจำ สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนด้านวิชาการพร้อมทั้งปลูกฝัง คุณธรรม จริยธรรมควบคู่กัน ส่งผลให้นักเรียน นักศึกษา เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพ ไม่เป็นปัญหาของสังคมในระยะยาว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage