'สิงเทล'ปฏิเสธไม่ขายหุ้นอินทัช-เอไอเอสให้ 'สารัชถ์ รัตนาวะดี' ซีอีโอใหญ่ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี หลังเสนอซื้อหุ้นรวมนับแสนล้านบาทเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ชี้ผู้เสนอหุ้นประเมินมูลค่าหุ้นเอไอเอสต่ำเกินไป ย้ำ 'สิงเทล'อยากมีส่วนร่วมชัดเจนในตลาด 5 G ประเทศไทย เชื่อยังทำงานร่วมกับ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ได้ต่อในอนาคต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวอ้างอิงจากเว็บไซต์ฟอร์บส์ว่าบริษัทสิงเทล หรือ สิงคโปร์เทเลคอมมูนิเคชันส์ เป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมของสิงคโปร์ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมาว่าบริษัทสิงเทลได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตัดสินใจจะซื้อหุ้นของบริษัทแอดวานซ์ อิน โฟเซอร์วิส (เอไอเอส) และหุ้นของบริษัทอินทัชโฮลดิ้ง
“บริษัทสิงเทลเห็นว่าผู้ที่เสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทเอไอเอสนั้นได้ประเมินมูลค่าที่ของบริษัทเอไอเอสต่ำเกินไป ซึ่งทางสิงเทลไม่มีความตั้งใจที่จะตอบรับต่อคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว” บริษัทสิงเทลระบุในแถลงการณ์ที่ส่งให้กับทางตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์
โดยมีรายงานว่าการออกมาปฏิเสธของบริษัทสิงเทลนั้นเกิดขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากที่ที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทเอไอเอสได้ออกมาบอกว่าข้อเสนอของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี นั้นต่ำเกินไป
นอกจากนี้บริษัทสิงเทลได้แสดงความตั้งในที่ชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอของบริษัทกัล์ฟ เอ็นเนอร์จี ที่ระบุว่าจะเข้าไปเป็นผู้ครองกิจการบริษัทอินทัช ซึ่งมีบริษัทเอไอเอสเป็นบริษัทในเครือ เนื่องจากบริษัทมองว่าการลงทุนของบริษัทนั้นถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่ง
โดย ณ เวลานี้บริษัทสิงเทลถือได้ว่าเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีหุ้นอยู่ในบริษัทอินทัช 21.2 เปอร์เซ็นต์ และมีหุ้นอยู่ในบริษัทเอไอเอส 23.3 เปอร์เซ็นต์
“การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วในประเทศที่ได้มีการนำเสนอเทคโนโลยีการสื่อสาร 5 G เพื่อใช้ทั้งในแวดวงผู้บริโภคและในแวดวงธุรกิจนั้น ทำให้บริษัทสิงเทลที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทอินทัชและบริษัทเอไอเอสได้ตัดสินใจว่าจะยังคงเข้าไปมีส่วนร่วมและนำเสนอศักยภาพของบริษัทในด้านโทรคมนาคมและทางด้านดิจิทัลต่อไป เพื่อที่จะฟื้นฟูธุรกิจหลักของบริษัท” บริษัทสิงเทลระบุ
อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ได้ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ในบริษัทอินทัชจำนวน 81 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.69 แสนล้านบาท และยังได้มีการเสนอแยกซื้อหุ้นที่เหลือของบริษัทเอไอเอสอีกคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.65 แสนล้านบาท
บริษัทสิงเทลได้กล่าวต่อไปว่าบริษัทนั้นจะยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ในอนาคตต่อไปเพื่อที่จะเสริมสร้างจุดแข็งและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการดำเนินงานของบริษัทอินทัชและบริษัทเอไอเอส เพื่อที่จะเป็นผู้นำในด้านระบบ 5 G และในด้านการบริการดิจิทัล ที่ ณ เวลานี้มีผู้ใช้งานในประเทศไทยทั้งสิ้น 43 ล้านคน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/