นายกฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ข้อกำหนด ข้อที่ 11 จาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 27 เอาผิด 'เฟกนิวส์' พร้อมชี้แจงข่าวจริงภายใน 24 ชั่วโมง ย้ำอย่าจับแค่ชาวบ้าน แต่ต้องดำเนินคดีได้จริง ไม่ว่าจะเป็นสื่อ คนดัง หรือ เพจต่างๆ
--------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ มีประเด็นสำคัญที่อยากจะเรียนแจ้งพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้
1.การลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษา
ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษาฯ ให้ช่วยเหลือผู้ปกครองและนักศึกษารวมทั้งสถานศึกษาทั่วประเทศ ในการลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ในภาคเรียนที่ 1/2564 งบประมาณรวม 33,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.1 สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ครอบคลุมนักเรียนทั่วประเทศ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา จำนวนมากกว่า 10 ล้านคน
1.2 จะจัดสรรค่าใช้จ่ายและอุปกรณ์เพื่อช่วยสถานศึกษา เพื่อรองรับการเรียนออนไลน์ โดยเฉพาะในพื้นที่มีความจำกัดทางทรัพยากร
1.3 ขอความร่วมมือโรงเรียนเอกชนให้ลด ชะลอ หรือตรึงค่าใช้จ่าย
1.4 สำหรับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ให้ลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษา โดยในส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ให้ลดลง 50% ส่วนที่มากกว่า 50,000-100,000 บาท ให้ลดลง 30% และส่วนที่เกิน 100,000 บาท ให้ลดลง 10% โดยรัฐบาลจะร่วมจ่ายกับสถาบันอุดมศึกษาในอัตรา 6 ต่อ 4 ของส่วนลด
1.5 สำหรับสถาบันอุดมศึกษาเอกชน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าเล่าเรียนให้นักศึกษา คนละ 5,000 บาท และขอให้แต่ละสถาบันพิจารณาลดค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม หรือสนับสนุนมาตรการอื่นๆ เช่นขยายเวลาหรือผ่อนชำระ จัดหาอุปกรณ์ ลดค่าหอพัก
2.การจัดการเรื่องข่าวปลอม
ขณะที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาโควิด และหน่วยงานรัฐกำลังแก้ไขสถานการณ์กันอย่างเต็มที่ แต่เรากลับต้องเผชิญกับปัญหาข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ (Fake News) ที่กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในสังคมเป็นอย่างมาก มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือการจงใจตัดต่อบิดเบือนคำพูดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ทั้งจากสื่อมวลชน ผู้มีชื่อเสียง และผู้ใช้สื่อทั่วไป ทั้งที่ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอเรียนให้ทราบว่า ตนให้ความสำคัญกับการจัดการข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง และได้สั่งการโดยตรงให้แต่ละกระทรวง ดำเนินการแก้ปัญหาข่าวปลอมอย่างจริงจังและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนี้
2.1 ขอให้แต่ละกระทรวง จัดตั้งฝ่ายที่รับผิดชอบในการตรวจสอบและแก้ไขข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับแต่ละกระทรวงทันที และให้เป็นตัวแทนหน่วยงานแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วย
2.2 ศูนย์ข่าวปลอมของกระทรวงและจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและประกาศลงสื่อของกระทรวงและหน่วยงานภายใน 24 ชั่วโมง ให้เข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด หลังจากได้รับการแจ้งจากประชาชน หรือหน่วยงานรัฐอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และส่งข้อมูลหรือประกาศชี้แจงแก้ไขข่าวปลอมให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และ กสทช. ทันทีที่ลงสื่อของกระทรวงด้วย
2.3 ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ ศปก.ศบค. ร่วมปรึกษาหารือกันอย่างเร่งด่วน ในการนำเอาข้อกำหนดข้อที่ 11 จากประกาศฉบับที่ 27 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าด้วยเรื่องการห้ามบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร มาเป็นแนวปฏิบัติของมาตรการที่ชัดเจน
2.4 ให้กรมประชาสัมพันธ์ โฆษกทุกกระทรวง และกสทช. สื่อสารให้ทุกหน่วยงานและประชาชนได้รับทราบถึงมาตรการนี้อย่างทั่วถึง
2.5 ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) , ปอท. , สตช. ดำเนินการในแนวปฏิบัติจากมาตรการนี้อย่างจริงจังและรวดเร็วยิ่งขึ้น ชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม ดำเนินคดีกับคนผิดได้จริงๆ โดยเฉพาะผู้ปล่อยรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน คนดัง หรือเพจต่างๆ ไม่ใช่จับแค่ชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น
โดยข้อสั่งการทั้งหมดนี้ ตนจะติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด และขอให้รายงานความคืบหน้าต่อตน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งหน้า และรายงานต่อเนื่องก่อนการประชุม ครม. ทุกครั้ง
3. แก่งกระจาน มรดกโลก
เรื่องสุดท้าย ครม.ได้รับทราบข่าวดีที่น่าภูมิใจ นั่นคือผลการพิจารณาขององค์การยูเนสโก มีมติเห็นชอบให้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ภายใต้เกณฑ์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นความสำเร็จของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่หายาก ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด มีความโดดเด่นระดับโลก หลังจากที่เราพยายามผลักดันมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นเวลาถึง 6 ปี ซึ่งถือเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 3 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ต่อจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ในปี 2534 และกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ในปี 2548
ต่อจากนี้รัฐบาลดำเนินการยกระดับการอนุรักษ์พื้นที่ด้วยการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล จะมุ่งมั่นส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ควบคู่ไปกับการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิทธิมนุษยชน ของประชาชนในพื้นที่ ที่อาศัยอยู่ร่วมกับป่า ให้ทุกภาคส่วนร่วมจัดการพื้นที่มรดกโลกร่วมกัน (Co-Management) และเกิดความตระหนักในคุณค่าของการเป็นเจ้าของมรดกโลกนี้ร่วมกัน (Sense of Ownership) เพื่อให้เกิดความสมดุลและประโยชน์อย่างยั่งยืนสูงสุด และยุติธรรมต่อทั้งธรรมชาติและมนุษย์ทุกคน เพื่อเป็นมรดกทั้งของโลกและของประเทศไทย ที่จะส่งต่อให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานช่วยกันดูรักษาร่วมกันต่อไป
ในส่วนของการแก้ไขสถานการณ์โควิด มีหลายประเด็นที่ได้สั่งการทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเตียง การปลดล็อกการตรวจและส่งตัวผู้ป่วยให้ได้เร็วที่สุด การเพิ่มกำลังการผลิตยา ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ และยาฟ้าทะลายโจร และการจัดหายาใหม่ๆ การดำเนินการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยระหว่างกักตัวอยู่ที่บ้านหรือในชุมชน การส่งตัวผู้ป่วยสู่ภูมิลำเนา การจัดหาวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดและมากที่สุด การจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้า ที่ต้องได้ตามที่ต้องการทุกคน รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และมีการทบทวนมาตรการต่างๆที่ได้ออกไปแล้วให้เกิดความเหมาะสมที่สุด และจะมีการประชุม ศบค. เพื่อพิจารณาประเมินสถานการณ์และมาตรการต่างๆในเร็วๆนี้
สุดท้ายนี้ ตนขอส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยที่เป็นตัวแทนของประเทศเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับ น้องเทนนิส หรือ เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่ได้มุมานะฝึกซ้อม และสู้สุดใจแม้คะแนนเป็นรอง จนสามารถคว้าเหรียญทอง สร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศได้ โดยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผมได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้การสนับสนุนภารกิจของน้องเทนนิสอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการขอสัญชาติไทยของโค้ชเช หรือ นายชเว ย็อง-ซ็อก ด้วย ขอขอบคุณและขอชื่นชมนักกีฬาไทยทุกคน รวมทั้งทีมผู้ฝึกสอน ผู้ประสานงาน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้มุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อชาติแทนพวกเราคนไทยทั้งประเทศ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage