กทม.แจงผู้สูงอายุได้รับวัคซีนล่าช้า เหตุเข้าไม่ถึงระบบลงทะเบียน-เดินทางลำบาก-ความกลัว เดินหน้าปรับแผนใหม่เน้นประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เคาะประตูบ้าน พร้อมผนึกกำลัง CCRT เร่งฉีดวัคซีน คาดสิ้นเดือนนี้ฉีดครบ 70% ส่วนกลุ่มอายุ 18-59 ปี 'ไทยร่วมใจ' นัดคิวใหม่ ผู้ถูกเลื่อนตั้งแต่ 19-23 มิ.ย.2564 ให้มาฉีดวัคซีนแล้ว
...................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 กรุงเทพมหานครแถลงข่าวสถานการณ์โควิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดย พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดภายใน กทม. ยังพบผู้ติดเชื้อสูง ด้วยความต้องการลดผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด จึงได้มุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคโควิดสูง
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพบว่า การฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุได้น้อย เนื่องประสบปัญหาในการลงทะเบียน ข้อจำกัดของการเดินทางที่ต้องรอบุตรหลาน หรือความกลัว ขณะนี้เราได้มีการปรับแผนให้แต่ละเขตมีการประชาสัมพันธ์ เคาะประตูบ้าน หรือประกาศเสียงตามสายให้ผู้สูงอายุมาลงทะเบียนฉีดวัคซีน และจัดทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว CCRT ให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับบุคคลกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะฉีดครบ 70% ได้ตามเป้าหมายในปลายเดือนนี้ และขอยืนยันว่าทาง กทม.เราไม่มีนโยบายฉีดวัคซีนซิโนแวคให้ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุทุกรายจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 เข็มแน่นอน
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กลุ่ม 18-59 ปี ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า หลังกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับแผนการกระจายวัคซีนให้เร่งฉีดกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเสี่ยงก่อน เพื่อให้บรรลุตามแผนดังกล่าว กทม.จึงเปลี่ยนให้วัคซีนกับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางก่อน และจะจัดสรรให้กลุ่มผู้มีอายุ 18-59 ปี เป็นลำดับถัดไป ซึ่งขณะนี้ได้รับวัคซีนมาแล้วบางส่วน
โดยล่าสุดไทยร่วมใจได้มีการประกาศให้กลุ่มผู้มีอายุ 18-59 ปี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิม ตั้งแต่วันที่ 19-23 มิ.ย.2564 เข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันนัดใหม่ ดังนี้ คิวฉีดเดิม 19 มิ.ย.2564 เปลี่ยนเป็น 22 ก.ค.2564, คิวฉีดเดิม 20 มิ.ย.2564 เปลี่ยนเป็น 23 ก.ค.2564, คิวฉีดเดิม 21 มิ.ย.2564 เปลี่ยนเป็น 24 ก.ค.2564, คิวฉีดเดิม 22 มิ.ย.2564 เปลี่ยนเป็น 25 ก.ค.2564 และคิวฉีดเดิม 23 มิ.ย.2564 เปลี่ยนเป็น 26 ก.ค.2564
ด้าน นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวถึงการบริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ป่วยด้วยว่า ผู้ป่วยที่พบผลตรวจเป็นบวกในรูปแบบการตรวจ RT-PCR หรือด้วย Antigen Test Kit เริ่มแรกจะให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน (Home Isolation) ก่อนเป็นหลัก ซึ่งจะมีทีมแพทย์คอยให้ดูแลคำปรึกษา และคำแนะนำผ่านช่องทางออนไลน์อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ส่วนในกรณีที่ภายในบ้านไม่สามารถแยกพักรักษาตัวได้ ทางหน่วยบริการ 1669, 1668 และ 1330 จะนำตัวผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาตามความหนักเบาของโรค โดยผู้ป่วยสีเขียว จะนำเข้าสู่ฮอสพิเทล ส่วนผู้ป่วยสีเหลืองและแดง จะนำเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทุกเครือข่ายต่อไป
สำหรับผู้ป่วยตกค้างที่บ้าน มีอาการในระดับกลาง และไม่สามารถอยู่บ้านได้ กทม.ได้เตรียม Community Isolation เอาไว้รองรับ 1 ศูนย์ 1 เขต ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 50 ศูนย์ และกำลังขึ้นบัญชีอีก 3 แห่ง หลังจากที่คนไข้ในพักที่ศูนย์ประมาณ 3-4 วัน เราจะทำการส่งต่อผู้ป่วยไปยังฮอสพิเทลหากอาการดีขึ้น หรือโรงพยาบาลสนาม หากอาการทรุดลง
ส่วนความคืบหน้าในการจัดตั้งไอซียูสนาม กทม.ได้ ขยายพื้นที่ในโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 40 เตียง โรงพยาบาลผู้สูงอายุ บางขุนเทียน อีก 16 ห้อง และเพิ่มหอผู้ป่วยรวมด้วย ขณะเดียวกัน กทม.ได้เพิ่มศักยภาพให้กับศูนย์ขนส่ง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด ของศูนย์เอราวัณ 1669 ด้วยระบบ CO-link ที่เจ้าหน้าที่สามารถดูรายชื่อผู้ป่วย และนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไปได้ นอกจากนั้นยังได้รับความร่วมมือจากเทศกิจ และทหาร ที่ได้ส่งรถรวมให้กว่า 55 คัน เพื่อรับส่งผู้ป่วย ซึ่งสามารถรับส่งผู้ป่วยได้ถึง 400 คนต่อวัน แต่เนื่องจากสถานการณ์เตียงในปัจจุบันยังมีจำกัด จึงทำให้ยอดการส่งต่อผู้ป่วยอาจน้อยกว่าศักยภาพที่ได้ตั้งไว้
@ ผลตรวจผู้เสียชีวิตคาถนนกลางกรุง ไม่ติดเชื้อ 1 อีก 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
การดูแลกลุ่มผู้ป่วยไรบ้านในกทม.มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 1,000-2,000 คน ซึ่งทาง กทม.ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มนี้อยู่ และพร้อมให้การดูแลกลุ่มคนไร้บ้านที่จะมาพักอาศัยในพื้นที่ที่ทาง กทม.จัดสรรไว้ให้ แต่ในส่วนของผู้ติดเชื้อ เราจะตรวจให้มากขึ้นด้วยการให้หน่วยเคลื่อนที่เร็ว CCRT ได้เข้าไปตรวจค้นหาเชิงรุก
ทั้งนี้ ในการพบผู้เสียชีวิตบนถนนทั้ง 3 ราย ขณะนี้ได้ชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นด้วย RT-PCR ในเคสผู้ป่วย 1 รายบริเวณถนนราชดำเนิน พบไม่ได้ติดเชื้อ ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage