ป่วยใหม่ 11,674 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 415,170 ราย เสียชีวิต 81 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ. 122,097 ราย ขณะที่พบคลัสเตอร์ใหม่ 8 แห่ง ใน 8 จังหวัด ด้านฝ่ายมั่นคงตั้งด่านเข้มรอบพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม สกัดโควิด ปชช.ออกนอกพื้นที่ต้องแสดงหลักฐาน 3 อย่าง พร้อมคาดการณ์หากไทยไม่คุมเข้มผู้ติดเชื้ออาจสูงถึง 3 หมื่น
-----------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,784 ราย ติดเชื้อในประเทศ 11,674 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 8,997 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,677 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 100 ราย และอีก 10 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 415,170 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,741 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 122,097 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 3,595 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 856 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 81 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 3,422 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 81 ราย มาจาก กทม. 26 ราย ปริมณฑล รวม 11 ราย ภาคใต้ รวม 11 ราย ภาคตะวันออก 13 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 ราย และภาคเหนือ 6 รายโดยมีอายุระหว่าง 29-100 ปี
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคปอด และไม่มีโรคประจำตัว 11 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนอื่นๆ ได้แก่ เพื่อน ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล และผู้ดูแล อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด เข้าไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน และมีอาชีพเสี่ยง เช่น แท็กซี่
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,134 ราย สมุทรสาคร 765 ราย ชลบุรี 615 ราย สระบุรี 494 ราย ปทุมธานี 485 ราย สมุทรปราการ 484 ราย สมุทรปราการ 483 ราย นนทบุรี 381 ราย ปัตตานี 296 ราย และตาก 267 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 10 ราย แบ่งเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย กัมพูชา 3 ราย และเมียนมา 6 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 69,667 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 5,167 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 14,298,596 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 10,850,099 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 3,448,497 ราย
@ พบ 8 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 8 จังหวัด ติดเชื้อรวม 190 ราย
สำหรับสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบคลัสเตอร์ใหม่ 8 แห่ง กระจาย 8 จังหวัด ติดเชื้อรวม 229 ราย แบ่งเป็น จังหวัดสมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานโลหะ อ.เมืองสมุทรสาคร ติดเชื้อ 22 ราย จังหวัดชลบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ในห้างสรรพสินค้า อ.บางละมุง ติดเชื้อ 21 ราย จังหวัดปทุมธานี พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานพลาสติก อ.ธัญบุรี ติดเชื้อ 16 ราย
จังหวัดนนทบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดสินทอง อ.เมืองนนทบุรี ติดเชื้อ 16 ราย จังหวัดฉะเชิงเทรา พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.บ้านโพธิ์ ติดเชื้อ 60 ราย จังหวัดสระแก้ว พบคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ ติดเชื้อ 55 ราย จังหวัดลพบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ในห้างสรรพสินค้า อ.เมืองลพบุรี ติดเชื้อ 23 ราย และจังหวัดพัทลุง พบคลัสเตอร์ใหม่โรงงานแปรรูปไก่ อ.เมืองพัทลุง ติดเชื้อ 26 ราย
@ คาดการณ์ไทยอาจพบผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 3 หมื่นราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้มีการประชุมกันร่วมกับสื่อมวลชน และมีการสอบถามถึงการคาดการณ์การติดเชื้อของประเทศไทยเป็นอย่างไร เพื่อแสดงให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งมี 2 รูปแบบ ประกอบด้วย แบบจำลองของคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลของ รศ.ดร.นวลจันทร์ สิงห์คราญ ได้ใช้ข้อมูลถึงวันที่ 17 ก.ค.2564 พบว่า หากเราไม่ทำได้อะไร ไม่ได้ช่วยกัน ปล่อยให้เกิดการติดเชื้อไปเรื่อยๆ อาจพบการติดเชื้อสูงถึง 31,977 รายต่อวัน ค่ากล่าง คือ 9 ,695 - 24,204 รายต่อวัน หากทำได้ดี 9,018 -12,605 รายต่อวัน
ส่วนอีกการศึกษานั้น เป็นการคาดการณ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก WHO ได้นำไปอ้างอิงโดยใช้รูปแบบของการฉีดวัคซีน แสดงให้เห็นว่า หากวัคซีนมาได้ตามกำหนดช่วงเวลา ไตรมาสที่ 4 ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2564 จะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 10,00-15,000 รายต่อวัน แต่หากมีวัคซีนน้อย จะพบผู้ติดเชื้อรายวัน ประมาณ 22,000 ส.ค.-ก.ย.2564
"ดังนั้นดีที่สุด คือต้องป่วยน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกัน" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
@ ตั้งด่านรอบพื้นที่สีแดง สกัดโควิด ปชช.ออกนอกพื้นที่ต้องแสดงหลักฐาน 3 อย่าง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวสรุปขอกำหนด ออกความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่า เมื่อวานนี้ได้มีประกาศยกระดับพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งได้เพิ่มจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยาให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ขณะเดียวกันได้เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้เป็น 53 จังหวัด ขณะพื้นที่ควบคุมเหลือน้อยลง ลดเหลือ 10 จังหวัด และมีพื้นที่เฝ้าระวังสูงเพียง 1 จังหวัด คือ ภูเก็ต โดยที่ไม่เหลือจังหวัดสีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวัง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ศบค.ขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดงดภารกิจการเดินทางออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น ไม่เฉพาะช่วงเวลาเคอร์ฟิวเท่านั้น แต่ช่วงเวลากลางวันก็จะต้องลดการเดินทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เว้นแต่การเดินทางจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาหาร ยาหรือเวชภัณฑ์ การเดินทางเพื่อเข้าพบแพทย์และบริการสาธาณสุข การเข้ารักษาพยาบาล และการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรค หรือการปฏิบัติงานที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้
ด้วยสถานการณ์การระบาดดังกล่าว ทางฝ่ายมั่นคงได้พูดคุยเมื่อเช้านี้ว่า คนที่อยู่พื้นที่แดงเข้ม จะได้รับความไม่สะดวกมากมายในการเดินทางข้ามพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากฝ่ายมั่นคงจะมีชุดตรวจเข้มแข็ง ตั้งด่านสกัดการเดินทางเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ทั้งบริเวณรอบชายขอบและระหว่างเส้นทางภายในพื้นที่ เพื่อให้การเดินทางได้รับความสะดวกน้อยที่สุด ลดการเคลื่อนย้ายของประชาชน
โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะตรวจสอบ 3 หลักฐานกับผู้ที่เดินทางเข้าออก ได้แก่ 1. หลักฐานการอนุญาตเดินทางจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2. การแจ้งข้อมูลในแอปพลิเคชันไทยชนะ และจะต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์ COVID19.in.th เพื่อรับ QR Code มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาระหว่าง 14 วันนี้ในพื้นที่ทั้ง 13 จังหวัดจะมีความยุ่งยากในการเดินทาง และคนที่อยู่ใน 13 จังหวัดนี้จะถูกบล็อกไว้เพื่อไม่ให้ออกนอกพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ส่วนคนที่อยู่นอกพื้นที่ 13 จังหวัดยังสามารถเดินทางเข้ามาได้แต่ต้องมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
นอกเหนือจากนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จะมีการจำกัดจำนวนผู้โดยสารขนส่งรถสาธารณะให้ใช้บริการได้ไม่เกิน 50% ของความจุทั่วประเทศ กิจการร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสดจะสามารถเปิดบริการได้ถึง 20.00น. ส่วนห้างสรรพสินค้าจะให้เปิดได้เฉพาะแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต ยาและเวชภัณฑ์ แต่ในร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธุรกิจสื่อสาร ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ก่อสร้าง ปั๊มน้ำมัน รวมทั้งบริการขนส่งเดลิเวอรี่ ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดให้บริการได้
แต่สำหรับสถานออกกำลังกาย ร้านตัดผม และร้านทำเล็บนั้น ขอให้รอดูประกาศของแต่ละจังหวัดว่าสามารถเปิดให้บริการได้หรือไม่ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดสถานที่ได้เพื่อการควบคุมสถานการณ์การระบาดในพื้นที่
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 445,267 รวมสะสม 191.22 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 445,267 ราย รวม 191,220,126 ราย อาการหนัก 80,545 ราย หายป่วย 174,167,927 ราย เสียชีวิต 4,105,743 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 9,513 ราย รวม 34,963,907 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย รวม 624,746 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 38,325 ราย รวม 31,143,595 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 501 ราย รวม 414,141 ราย บราซิล พบเพิ่ม 34,126 ราย รวม 19,376,574 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 939 ราย รวม 542,262 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 54 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage