สธ.เผยความคืบหน้า เตรียมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ให้บุคลากรด่านหน้า วันพรุ่งนี้ คาดหลังมีมติเห็นชอบ พร้อมจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ในวันถัดไป
..........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2564 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมการควบคุมโรค กล่าวขอแสดงความเสียใจไปยังญาติของพยาบาลผู้เสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แม้จะได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม พร้อมแถลงข่าวความคืบหน้าวัคซีนบูสเตอร์โดส ว่า คณะกรรมการวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีความเห็นตรงกันว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีข้อมูลสับสนว่าภูมิคุ้มกันจะลดลง หลังจากฉีดวัคซีนไประยะหนึ่ง จึงเป็นที่มาให้มีการเสนอการฉีดวัคซีนกระตุ้น เข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรการแพทย์ที่มีความเสี่ยงในการดูแลผู้ป่วยโควิด ซึ่งจะเป็นการฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนต่างชนิด เช่น ชนิดไวรัลเวกเตอร์ (Viral Vector) ได้แก่ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือชนิด mRNA ซึ่งอีกไม่นานเราจะได้รับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์เข้ามา ทั้งนี้ข้อเสนอของคณะกรรมการวิชาการนี้ จะนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคิดต่อแห่งชาติในวันพรุ่งนี้
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ในรอบการระบาดเดือน เม.ย. - ก.ค.2564 พบการระบาดในกลุ่มบุคลากรการแพทย์จำนวน 880 ราย โดยส่วนใหญ่พบในผู้หญิง ซึ่ง 54% เป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล รองลงมาจะเป็นวิชาอีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย มักมีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 20 - 29 ปี ถัดมาจะเป็น 30 - 39 ปี และลดหลั่นกันไปตามช่วงอายุ
ปัจจุบันบุคลากรการแพทย์ฉีดวัคซีนแล้ว 97% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 880 ราย ไม่มีประวัติการรับวัคซีน 173 ราย คิดเป็น 19.7% และเสียชีวิต 7 ราย ไม่ได้รับวัคซีนโควิด 5 ราย ได้รับซิโนแวคไม่ครบ 1 ราย และได้รับซิโนแวคครบ 1 ราย อย่างไรก็ตามหากพิจารณาถึงอัตราการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีน จะเห็นว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนครบจะมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับวัคซีน
หากดูตัวเลขประวัติการรับวัคซีนของบุคลากรการแพทย์ ในช่วงวันที่ 1 เม.ย. - 10 ก.ค.2564 เพิ่มเติม จะเห็นว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 1 โดส จำนวน 22,062 ราย ติดเชื้อ 68 คน หรือคิดเป็นอัตรา 308 คน ต่อประชากร 1 แสนคน ส่วนคนที่ได้รับครบ 2 โดส จำนวน 677,348 ราย ติดเชื้อ 618 คน หรือคิดเป็นอัตรา 91 คน ต่อประชากร 1 แสนราย และทั้ง 2 กรณี ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย แต่จะมีอาการปานกลางอยู่ 19 คน และมีอาการรุ่นแรงอยู่ 1 คน
ขณะที่ มีผู้ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดส จำนวน 66,913 ราย ติดเชื้อ 45 คน หรือคิดเป็นอัตรา 67 ต่อประชากร 1 แสนคน เป็นผู้ไม่มีการ หรือมีอากาน้อย 43 คน มีอาการรุนแรง 2 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในกลุ่มนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ขอยืนยันว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของไวรัสจากสายพันธุ์อัลฟ่า (สายพันธุ์อินเดีย) เป็นสายพันธุ์เดลต้า (สายพันธุ์อินเดีย) วัคซีนซิโนแวคอาจใช้ไม่ได้ผลดีเท่ากับสายพันธุ์เดิม คณะกรรมการฝ่ายวิชาการมีความเห็นว่าสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าที่ต้องดูแลผู้ป่วย ควรจะได้รับวัคซีนกระตุ้นอีก 1 เข็ม โดยเราได้เตรียมวันซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนผู้ที่จะรอวัคซีนชนิด mRNA อาจต้องรออีกสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการนำเรื่องวัคซีนบูสเตอร์เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีมติเห็นชอบ หลังจากได้รับความเห็นชอบ เราจะเริ่มดำเนินการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ในวันถัดไปได้เลย ซึ่งจะมีการสำรวจ โดยจะเริ่มจากบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าก่อน เพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูงสุด ส่วนกลุ่มอื่นๆ ขอให้รอติดตามข่าวต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/