เลื่อนคดีได้! ศาลคลอดแนวปฏิบัติใหม่ช่วงโควิดฯ-ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทน

ศาลยุติธรรมคลอดแนวปฏิบัติการทำงานภายใต้โควิด-19 ฉ.15 เน้นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องลดจำนวนผู้มาศาล ให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทน-เลื่อนคดีได้ ลดจำนวนคน ให้ จนท.ทำงานที่บ้าน

..........................................................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 สำนักงานศาลยุติธรรม เผยแพร่แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดีในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 8 ก.ค. 2564 กรณีโรคโควิด-19 ที่มีการระบาดอย่างรุนแรงและจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

โดยศาลและหน่วยงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน กทม. และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) มีความจำเป็นต้องลดจำนวนผู้มาศาลให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

โดยคดีที่มีนัดในเดือน ก.ค .2564 คดีจัดการพิเศษให้ดำเนินการโดยใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนคดีสามัญและสามัญพิเศษ หากกระบวนการพิจารณาใดใช้วิธีอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้ใช้วิธีดังกล่าว ส่วนการสืบพยานบุคคล หากไม่พร้อมให้พึงเลื่อนคดีได้

ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องติดต่อประสานงานกับคู่ความและพยานล่วงหน้าก่อนวันนัด หากฝ่ายใดมีเหตุขัดข้องไม่อาจใช้กระบวนการพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ พึงให้เลื่อนคดีออกไปก่อนวันนัด เว้นแต่คดีที่หากเลื่อนไปจะทำให้คู่ความได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ให้ดำเนินการได้โดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนด กรณีเลื่อนคดีให้เจ้าหน้าที่ติดต่อประสานกับคู่ความและพยานเป็นระยะ ๆ หากพร้อมที่จะใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ลงนัดโดยเร็ว

นอกจากนี้ให้จัดบุคลากรมาปฏิบัติงานที่ศาลให้กำหนดจำนวนเท่าที่จำเป็นกับปริมาณคดีและปริมาณงานที่ต้องทำเร่งด่วนในช่วงเวลานี้เท่านั้น โดยขอให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลพิจารณาให้บุคลากรในหน่วยงานที่เหลือปฏิบัติหน้าที่นอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน (Work from home) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

ส่วนคดียื่นฟ้องในเดือน ก.ค. 2564 ให้แจ้งและทำความเข้าใจคู่ความว่า ช่วงการแพร่ระบาด ศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้กรณีมีการประกาศกำหนดเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพิ่มเติม ขอให้นำแนวปฏิบัติดังกล่าวไปใช้โดยอนุโลม

ขณะเดียวกันศาลหรือหน่วยงานที่พบว่ามีบุคลากรในสังกัดหรือผู้มาติดต่อราชการเป็นผู้ติดโควิด-19 ให้ดำเนินการฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดโดยเร็ว และอาจประกาศเลื่อนคดีในศาลออกไป 3 วัน หรือตามระยะเวลาที่เหมาะสม

(อ่านแนวปฏิบัติประกอบ : https://jla.coj.go.th/th/content/category/detail/id/1601/iid/252109)

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/