เจ้าหน้าที่ควบคุมเหตุ-สามารถดับไฟโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก บริษัท หมิงตี้ฯ ได้หมดทุกจุดแล้ว เหตุจากสารเคมีรั่วไหล ด้าน'วราวุธ' เผย โรงงานตั้งก่อนมีกฎหมายอีไอเอ สั่งกรมควบคุมมลพิษเร่งตรวจสอบคุณภาพอากาศ-สารปนปื้อนในท่อระบายน้ำ เผยคุณภาพอากาศในรัศมี 1 กม. เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
........................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2564 เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ทั้งหมดแล้ว โดยได้ระดมปูพรมฉีดโฟมปกคลุมบ่อสารเคมี เพื่อไม่ให้ไฟติดลุกขึ้นมาได้อีก แต่ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวัง เพราะยังคงมีความร้อนสูงและอาจเกิดการติดไฟขึ้นมาได้ทุกขณะ
ต่อมาเวลาประมาณ 06.10 น. มีรายงานว่าเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีกบริเวณรั้วปูนด้านนอกโรงงาน เจ้าหน้าที่กำลังเข้าควบคุมไม่ให้ไฟลุกลาม และในเวลา 07.00 น. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมเหตุ และสามารถดับไฟได้หมดทุกจุดแล้ว
สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ หัวหน้าโรงงาน เปิดเผยว่า เกิดจากสารเคมีรั่วไหลในตอนกลางดึก แต่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบว่ารั่วไหลที่จุดไหน ก็เกิดการระเบิดขึ้นก่อน ต่อมาได้เกิดเหตุไฟไหม้รุนแรง
ในส่วนของประชาชนในรัศมี 5 กม.จากจุดเกิดเหตุ ที่อพยพออกนอกพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.2564) ยังไม่อนุญาตให้กลับเข้ามายังบ้านเรือน และขอให้ติดตามประกาศจากทางราชการก่อนเท่านั้น เนื่องจากยังต้องประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 08.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุไฟไหม้ รงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัทหมิงตี้ฯ ว่า ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการตรวจวัดคุณภาพอากาศในรัศมี 3-5 กม. โดยได้มีการส่งรถโมบายเคลื่อนที่ลงไปตรวจวัด และยังมีการติดตั้งสถานีย่อยในรัศมีดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าคุณภาพอากาศในรัศมี 1 กม. เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไม่ถึงชีวิต ขณะที่ในระยะ 5 กิโลเมตรถือว่ายังเป็นระยะที่ปลอดภัยอยู่ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าปลอดภัยถึงขั้นให้ประชาชนเดินทางกลับที่พักอาศัย เพราะยังต้องตรวจสอบเรื่องสารเคมีตกค้าง และสารที่ไหลออกมาจากโรงงานซึ่งกับมาน้ำที่เราฉีดเลี้ยงไฟไม่ให้ปะทุที่อาจมีสารเคมีปนเปื้อนออกมาได้ โดยภายในวันนี้ ( 6 ก.ค.) น่าจะได้ข้อสรุป ขอประชาชนอย่าเพิ่งใจร้อน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำงานทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ คพ.กำลังระดมเข้าไปตรวจวัดคุณภาพอากาศและน้ำที่อยู่ตามท่อระบายน้ำเพื่อให้ทราบว่ามีสารเคมีตกค้างมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการโดยรอบที่เกิดเหตุ เมื่อข้อสรุปแล้ว จะได้เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าโรงงานดังกล่าวได้ทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวตั้งมา 30 กว่าปีแล้ว ขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายอีไอเอ แต่ไม่แน่ใจว่าหลังมีกฎหมายแล้วได้มีการทำอีไอเอเพิ่มเติมหรือไม่ จึงขอไปหาข้อมูล ประกอบกับไปดูกฎหมายผังเมือง โดยประสานกับกระทรวงมหาดไทยก่อน ซึ่งทราบมาว่าพื้นที่ที่ตั้งของโรงงานอยู่ในพื้นที่สีแดงที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อการพาณิชย์ หลายคนสงสัยว่าทำไมโรงงานไปตั้งในชุมชน จึงต้องมาตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือโซนที่อยู่อาศัย เพราะการที่มีโรงงานกับบ้านพักติดกันเป็นไปได้ใน 2 กรณี คือ โรงงานตั้งก่อนชุมชน หรือที่ชุมชนกระจายไปจนติดโรงงาน คงต้องดูผังเมือง
และเมื่อถามว่า โซเชียลมีเดียวิจารณ์อย่างมากว่านายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และคนในรัฐบาล เหตุใดจึงไม่รุดลงพื้นที่ นายวราวุธ กล่าวว่า นายกฯและรองนายกฯให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องเรียนตรงๆว่า หากนายกฯ หรือรองนายกฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกหน่วยงานลงไปในพื้นที่แล้ว โดยธรรมชาติคนไทยเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ต้องแห่มาต้อนรับ โดยนายกฯทราบดีว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น ยิ่งจะทำให้วุ่นวายไปอีก จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ไป เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ ณ ที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร ตนเห็นว่าการที่นายกฯไม่ไปนั้นถูกต้องแล้ว เพราะการบัญชาการที่ศูนย์บัญชาการเพื่อทำหน้าที่สั่งการและประสานจะมีประสิทธิภาพมากกว่า และยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ เหมือนเมื่อครั้งเหตุการณ์ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่นายกฯยังไม่ไปทันที เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายและสร้างอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ จึงขอความเห็นใจจากสังคมด้วย
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สภาพอากาศเช้าวันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แต่ขอให้ควบคุมพื้นที่ 1-2 กม.ไว้ก่อน เนื่องจากค่าที่ตรวจวัดฟอร์มัลดีไฮด์ ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หากสัมผัสโดยตรง จะมีอาการวิงเวียนศีรษะ ถ้าสูดดมไปมากๆ ก็จะเป็นสารก่อมะเร็งได้ อีกทั้งยังมีสารสไตรีน บางส่วนกระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณแทงค์เก็บ หากสารเคมีเจออุณหภูมิความร้อน ก็จะทำให้เกิดไฟลุกขึ้นมาได้อีกได้ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าน่าจะเปิดพื้นที่ที่ปลอดภัยได้มากขึ้น
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสารเคมีในอากาศนั้น ไม่เป็นห่วง เพราะจะมีการกระจายและเจือจางในอากาศ จนไม่กระทบกับร่างกาย ยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบในระยะไกลอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องที่เป็นห่วง คือ สารเคมีที่ตกค้างจากการดับเพลิงที่อาจจะไหลลงลำรางสาธารณะ โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานไว้แล้ว อยู่ระหว่างรอผล อีกทั้งยังคงเป็นห่วงเรื่องฝน หากมีฝนตกลงมาจะทำให้สารเคมีไหลลงไปในน้ำมากขึ้น
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมในจุดที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ กลุ่มควันทำวงรอบบริเวณกว้างมาก และในช่วงเย็นวานนี้ มีภาพเปลี่ยนไปบ้างตามแรงลม โดยในช่วงเช้านี้ ภาพควันไฟก็ลดลง นอกจากนี้ GISTDA จะช่วยตรวจสอบแหล่งน้ำที่อาจได้รับผลกระทบอีกด้วย ตามที่กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบอยู่ โดยจะดูในระยะรัศมี 5 กม. ทั้งนี้ ขออย่าให้ฝนตกลงมา บริเวณจุดเกิดเหตุ และเมื่อเวลา 10.30 น. สถานการณ์ทิศทางลมยังพัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้รัศมีของผลกระทบก็จะแคบลงมา
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage