ความในใจของ’ศิริพร มณีพันธ์’ เมื่อผู้ว่าฯ รฟท.ติดโควิด

"... พี่รุฒเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงและตัดสินใจเร็วมาก เมื่อได้รับทราบว่าอยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิบัติงานในฐานะผู้ว่าฯ และได้เข้าร่วมงานกับผู้ที่ติดเชื้อ พี่รุฒก็ตัดสินใจเข้ารับการตรวจทันทีและแยกกักตัวเองโดยไม่ลังเลแม้ยังไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด..."

............................

ช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมานับแต่พี่รุฒ หรือผู้ว่าฯ นิรุฒ ของชาวการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ตรวจพบเชื้อโควิด 19 เป็นช่วงเวลาที่ไม่ง่ายสำหรับทั้งครอบครัว องค์กร และญาติมิตรทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นทั้งการให้กำลังใจ การให้คำแนะนำและช่วยเหลือดูแล ไปกระทั่งการบิดเบือนข้อมูล จึงอยากบันทึกเรื่องราวส่วนหนึ่งไว้ดังนี้

- พี่รุฒเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงและตัดสินใจเร็วมาก เมื่อได้รับทราบว่าอยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิบัติงานในฐานะผู้ว่าฯ และได้เข้าร่วมงานกับผู้ที่ติดเชื้อ พี่รุฒก็ตัดสินใจเข้ารับการตรวจทันทีและแยกกักตัวเองโดยไม่ลังเลแม้ยังไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด

- เมื่อตรวจพบเชื้อก็เข้ารับการรักษาตามกระบวนการ แต่ก็ไม่วายที่จะ ‘ห่วงงาน’ ยังกังวลและประสงค์ที่จะเคลียร์เรื่องราวอีกสารพัดที่คั่งค้างด้วยไม่ต้องการให้ตนเองเป็นตัวถ่วงองค์กร เปิดเผยไทม์ไลน์ของตนเองอย่างละเอียด และจัดให้ครอบครัวพร้อมทั้งผู้ที่ทำงานใกล้ชิดได้เข้ารับการตรวจทุกคน

- พี่รุฒกำลังใจยังดีมาก แต่อาการก็ยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้สบายใจ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU ร.พ.ศิริราช ซึ่งทำให้ลูกๆ ทั้งหลายที่ทั้งรักและเป็นห่วงคุณพ่อได้ทำการ์ดจากใจส่งกำลังใจให้พ่อด้วย เห็นแล้วคงยิ้มแก้มปรินะคะพ่อรุฒ

- แม้จะได้รับคำชื่นชมจากสังคมถึงความจริงใจในการเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด แต่ก็ไม่วายมีสื่อบางสำนักนำไปบิดเบือน ตัดรายละเอียดบางประการทิ้งและทำเป็นตั้งคำถามเชิงว่าเปิดเผยไม่ครบ เช่นในวันที่ 29 มี.ค. ช่วงเย็นที่เปิดเผยในไทม์ไลน์ไว้ชัดเจนว่าได้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และได้ไปทานอาหารเย็นวันนั้นกับพี่รุฒเอง แต่สื่อรายหนึ่งกลับบอกว่าไม่มีข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ว่าฯในเย็นวันดังกล่าว และตั้งคำถามเชิงว่าผู้ว่าฯ ไปเที่ยวผับด้วยใช่ไหมจึงไม่ให้ข้อมูล นี่ถ้าไม่ได้เป็นคนทานอาหารเย็นวันนั้นและกลับบ้านด้วยกัน ก็คงยืนยันแทนพี่รุฒไม่ได้ เห็นอย่างนี้ก็ได้แต่ทำใจและให้อภัยสื่อที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ดังกล่าว

ท้ายสุดนี้ก็ขอขอบพระคุณทุกท่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาคมชาวการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกท่าน ญาติมิตรทั้งหลาย ทั้งที่ส่งกำลังใจ ให้คำแนะนำ ไปกระทั่งส่งอาหารการกินมาให้ด้วยเหตุว่าคงเกรงครอบครัวผอมแห้งระหว่างกักตัวกันอย่างเคร่งครัด แต่ทุกคนอาจประหลาดใจว่ากักตัวท่าไหน จึงบวมได้ขนาดนี้ค่ะ

ที่มา : https://www.facebook.com/siriporn.maneepun